เชิญมาร่วมกัน "
ปฏิวัติ "
(นำเสนอแนวคิด เพียงแง่มุมหนึ่งเท่านั้น)
๏ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
มีการรวมตัวกันของประชาชนอยู่บ่อยครั้ง
เพื่อหวังโค่นล้มรัฐบาล
ด้วยเหตุผลหลัก
คือ มีการ " ทุจริต "
อย่างร้ายแรง
๏ เกิดการเรียกร้องมายังประชาชน
ให้ออกมาช่วยกันปกป้องประเทศไทย
ไม่ให้ล่มสลายด้วยน้ำมือนักการเมืองขี้โกง
และมีการเรียกร้องถึงทหาร ให้ออกมา " ปฏิวัติ "
ยึดอำนาจจากรัฐบาลทุจริต
๏
เมื่อย้อนดูประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของไทย
เคยผ่านการ
" ปฏิวัติ " มา
1 ครั้ง / 8
ครั้ง / 12 ครั้ง / 24 ครั้ง ฯลฯ
แล้วแต่การตีความของแต่ละคน
แต่ละองค์กร
๏ การปฏิวัติ ก่อให้เกิดผลเสียหลายประการ เช่น
-คณะผู้ทำการปฏิวัติ จะขอเงินงบประมาณค่าปฏิวัติจากรัฐบาล
อย่างครั้งล่าสุด ขอ 2,000 ล้านบาท(ทั้งๆที่ไม่ได้ยิงปืนแม้แต่นัดเดียว)
-การใช้อำนาจเหนือกฎหมายของคณะปฏิวัติต่อประชาชน
-การแก้ไขกฎหมาย การจัดการทรัพยากรแผ่นดินตามอำเภอใจของคณะปฏิวัติ
-การแก้ไขรัฐธรรมนูญ-กระบวนการลงโทษนักการเมือง-การเลือกตั้งใหม่ ฯลฯ
ล้วนทำให้เสียเงินงบประมาณอีกหลายพันหลายหมื่นล้าน
-ผลกระทบด้านภาพลักษณ์ของประเทศในสังคมโลก
ฯลฯ
๏ หากทว่าทุกครั้งที่ปฏิวัติสำเร็จ
จะยุติลงด้วย
การตั้งบุคคลในคณะปฏิวัติหรือตั้งรัฐบาลหุ่นเชิด
ขึ้นมาปกครองระยะหนึ่ง(นานที่สุด เท่าที่จะครองอำนาจได้)
ก่อนจะมีการจัดการเลือกตั้งตามมา
ตามระบอบประชาธิปไตย(แบบไทยๆ)
๏ เปรียบได้กับการกำจัดหญ้า
ด้วยการ
" ตัด " ใบและลำต้น
รากเหง้ายังคงอยู่
รากเหง้ายังคงอยู่
หญ้าใหม่ในรากเก่า ย่อมงอกพ้นแผ่นดินขึ้นมา
ในเวลาไม่นาน
๏ หลังการปฏิวัติในประเทศไทย
ลองวินิจฉัยดูแล้ว
จะพบว่า
ยังคงได้นักการเมืองกลุ่มเดิม
พฤติกรรมเช่นเดิม
มีไม่น้อยที่ยังเป็นเครือญาติกันกับรัฐบาลที่ถูกปฏิวัติ
มีไม่น้อยที่ยังเป็นเครือญาติกันกับรัฐบาลที่ถูกปฏิวัติ
เข้ามาปกครอง-บริหารประเทศ ทั้งในรัฐบาลเฉพาะกาลและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งใหม่
๏ ยังคง " ทุจริต " เหมือนเดิม
ไม่เปลี่ยนแปลง เช่น
หลังการโค่นอำนาจ รัฐบาลทักษิณ
แม้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อเลือกตั้งใหม่ก็ได้รัฐบาลหุ่นเชิดของทักษิณ
กลับมาบริหารประเทศแบบอำนาจนิยม
ทุจริตเหมือนเดิม แทบจะทุกครั้ง
๏ มิหนำซ้ำ
ข้อหา " ทุจริต " ที่ใช้อ้างเพื่อทำการปฏิวัติ
สุดท้าย ตลอดเกือบ 90 ปีของเส้นทางประชาธิปไตยแบบไทยๆ
ก็ไม่เคยลงโทษนักการเมืองได้สักคน
ตำรวจ-อัยการ-ศาล ต่างมีส่วนร่วมในการปล่อยนักการเมืองทุจริตให้เป็นผู้บริสุทธิ์-มีอิสรภาพ
เสียงบประมาณ-เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
แม้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อเลือกตั้งใหม่ก็ได้รัฐบาลหุ่นเชิดของทักษิณ
กลับมาบริหารประเทศแบบอำนาจนิยม
ทุจริตเหมือนเดิม แทบจะทุกครั้ง
๏ มิหนำซ้ำ
ข้อหา " ทุจริต " ที่ใช้อ้างเพื่อทำการปฏิวัติ
สุดท้าย ตลอดเกือบ 90 ปีของเส้นทางประชาธิปไตยแบบไทยๆ
ก็ไม่เคยลงโทษนักการเมืองได้สักคน
ตำรวจ-อัยการ-ศาล ต่างมีส่วนร่วมในการปล่อยนักการเมืองทุจริตให้เป็นผู้บริสุทธิ์-มีอิสรภาพ
เสียงบประมาณ-เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
๏ นั่นย่อมแสดงว่า
การปฏิวัติไม่ได้แก้ปัญหา
การ " ทุจริต "
เพียงแต่เปลี่ยนกลุ่มนักการเมืองหน้าใหม่
ให้ได้เข้ามาทุจริตแทนนักการเมืองหน้าเก่า
เท่านั้นเอง
๏ สาเหตุที่ประเทศไทย เต็มไปด้วยนักการเมืองทุจริต
เพราะ....
เพราะ....
นักการเมืองไทย
ก็มาจากคนไทย
และ....
คนไทยส่วนใหญ่ยอมรับการทุจริต
๏ จากการสำรวจหลายต่อหลายครั้ง
พบว่า
คนไทย เกือบ 70 %
ยอมรับการทุจริตของนักการเมือง
ที่เสนอผลประโยชน์ให้กับตน
อาทิเช่น การช่วยเหลือแบบพึ่งพา การให้เงินเพื่อซื้อเสียง
รวมถึงเสนอนโยบายรัฐ ฯลฯ
เรียกว่า คนไทยส่วนใหญ่เห็นแก่ตัว
เหนือกว่าชาติบ้านเมือง
เรียกว่า คนไทยส่วนใหญ่เห็นแก่ตัว
เหนือกว่าชาติบ้านเมือง
๏ คิดกันคร่าวๆ จะได้ว่า
ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง
เมื่อคนไทย
70 % เลือกนักการเมืองทุจริต
แน่นอนว่า
ย่อมได้รัฐบาลทุจริตมาปกครอง
มาบริหารประเทศ
ตามหลักการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย
ตามหลักการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย
แบบนี้
ปฏิวัติ ไปกี่ครั้ง
ก็แก้ปัญหาการทุจริตของรัฐบาลไม่ได้
๏ ลองคิดกันง่ายๆ
แค่ยอมรับการทุจริตของคนอื่น
ยังมีจำนวนคนมากถึงเพียงนี้
หากมีโอกาส คนไทยที่พร้อมจะทุจริตด้วยตัวเอง
น่าจะมีมากกว่า
70 %
อาจจะมากถึง
90 %
ก็เป็นไปได้ ?
๏
จากที่ได้กำเนิดและอาศัยบนแผ่นดินไทยมาตลอดชีวิต
ผู้เขียนพบว่า
ปัญหาการทุจริต ไม่ได้มีแต่ในรัฐบาลเท่านั้น
นักการเมืองท้องถิ่น
, ข้าราชการ , รัฐวิสาหกิจ , พ่อค้าแม่ค้า , กรรมกร , เกษตรกร
แม้แต่
พระภิกษุ-สามเณร-แม่ชี ฯลฯ
เรียกว่า ตลอดทั่วทุกภาคส่วนของประชาชนในสังคม(ทุกภาคส่วน ไม่ใช่ ทุกคน)
คนจน คนรวย ชนชั้นกลาง
คนจน คนรวย ชนชั้นกลาง
ทั้งเด็ก
ผู้ใหญ่ ชายและหญิงก็ว่าได้
ต่างมีพฤติกรรมการทุจริตแทบจะทั้งสิ้น
มากบ้างน้อยบ้างตามแต่จะมีโอกาส
๏ ความเสียหายของประเทศชาติ
อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการทุจริต
จึงไม่ได้เกิดจากการกระทำของรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว
หากแต่ว่า
เกิดจากประชาชนคนไทย
ทุกภาคส่วน
๏ แล้วแบบนี้
จะปฏิวัติรัฐบาลไปทำไม
?
๏ ผู้ที่ควรถูกปฏิวัติเป็นการด่วน
คือ " คนไทย ทั้งประเทศ "
๏ จึงขอเชิญคนไทยทุกคน
ให้มาร่วม " ปฏิวัติ การยอมรับการทุจริต "
ให้หมดไปจากจิตใจของคนไทย
ให้หมดสิ้นจากผืนแผ่นดินไทย
๏ นั่นแหละ จึงจะเป็นวิธี " ปฏิวัติ "
ที่แก้ปัญหาการทุจริตในประเทศไทยได้อย่างถาวร
เปรียบเสมือนการถอนหญ้าขึ้นมาทั้งราก
ย่อมแก้ปัญหาการงอกใหม่ของหญ้าได้
อย่างสิ้นเชิง ฯ
กรณีของนายรักเกียรติ อดีต รมต.สาธารณสุข ไม่ได้ถูกดำเนินคดีเพราะการปฏิวัติ
และไม่อยากคิดว่าเป็นผลงานของกระบวนการยุติธรรมไทย
เพราะนายรักเกียรติไม่หนีไปต่างประเทศ แต่หลบอยู่ในกทม.หลายปี
ออกกำลังกายในสวนสาธารณะกลางกทม. เป็นประจำ จนมีคนโทรไปแจ้งตำรวจให้มาจับ
ถูกจำคุกไม่กี่ปี ไม่สามารถยึดทรัพย์ที่ทุจริตไปได้เลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น