ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เชิญมาร่วมกัน " ปฏิวัติ "



เชิญมาร่วมกัน " ปฏิวัติ "
(นำเสนอแนวคิด เพียงแง่มุมหนึ่งเท่านั้น)

  ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
มีการรวมตัวกันของประชาชนอยู่บ่อยครั้ง
เพื่อหวังโค่นล้มรัฐบาล
ด้วยเหตุผลหลัก คือ มีการ " ทุจริต " อย่างร้ายแรง

  เกิดการเรียกร้องมายังประชาชน
ให้ออกมาช่วยกันปกป้องประเทศไทย
ไม่ให้ล่มสลายด้วยน้ำมือนักการเมืองขี้โกง
และมีการเรียกร้องถึงทหาร ให้ออกมา " ปฏิวัติ "
ยึดอำนาจจากรัฐบาลทุจริต

  เมื่อย้อนดูประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของไทย
เคยผ่านการ " ปฏิวัติ " มา
1 ครั้ง / 8 ครั้ง / 12 ครั้ง / 24 ครั้ง ฯลฯ
แล้วแต่การตีความของแต่ละคน แต่ละองค์กร

๏ การปฏิวัติ ก่อให้เกิดผลเสียหลายประการ เช่น
-คณะผู้ทำการปฏิวัติ จะขอเงินงบประมาณค่าปฏิวัติจากรัฐบาล
 อย่างครั้งล่าสุด ขอ 2,000 ล้านบาท(ทั้งๆที่ไม่ได้ยิงปืนแม้แต่นัดเดียว)
-การใช้อำนาจเหนือกฎหมายของคณะปฏิวัติต่อประชาชน
-การแก้ไขกฎหมาย การจัดการทรัพยากรแผ่นดินตามอำเภอใจของคณะปฏิวัติ
-การแก้ไขรัฐธรรมนูญ-กระบวนการลงโทษนักการเมือง-การเลือกตั้งใหม่ ฯลฯ
 ล้วนทำให้เสียเงินงบประมาณอีกหลายพันหลายหมื่นล้าน
-ผลกระทบด้านภาพลักษณ์ของประเทศในสังคมโลก
ฯลฯ

  หากทว่าทุกครั้งที่ปฏิวัติสำเร็จ
จะยุติลงด้วย การตั้งบุคคลในคณะปฏิวัติหรือตั้งรัฐบาลหุ่นเชิด
ขึ้นมาปกครองระยะหนึ่ง(นานที่สุด เท่าที่จะครองอำนาจได้)
ก่อนจะมีการจัดการเลือกตั้งตามมา
ตามระบอบประชาธิปไตย(แบบไทยๆ)

  เปรียบได้กับการกำจัดหญ้า
ด้วยการ " ตัด " ใบและลำต้น
รากเหง้ายังคงอยู่
หญ้าใหม่ในรากเก่า ย่อมงอกพ้นแผ่นดินขึ้นมา
ในเวลาไม่นาน

๏  หลังการปฏิวัติในประเทศไทย
ลองวินิจฉัยดูแล้ว จะพบว่า
ยังคงได้นักการเมืองกลุ่มเดิม พฤติกรรมเช่นเดิม
มีไม่น้อยที่ยังเป็นเครือญาติกันกับรัฐบาลที่ถูกปฏิวัติ
เข้ามาปกครอง-บริหารประเทศ ทั้งในรัฐบาลเฉพาะกาลและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งใหม่

๏  ยังคง " ทุจริต " เหมือนเดิม
ไม่เปลี่ยนแปลง เช่น
หลังการโค่นอำนาจ รัฐบาลทักษิณ
แม้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อเลือกตั้งใหม่ก็ได้รัฐบาลหุ่นเชิดของทักษิณ
กลับมาบริหารประเทศแบบอำนาจนิยม
ทุจริตเหมือนเดิม แทบจะทุกครั้ง

  มิหนำซ้ำ
ข้อหา " ทุจริต " ที่ใช้อ้างเพื่อทำการปฏิวัติ
สุดท้าย  ตลอดเกือบ 90 ปีของเส้นทางประชาธิปไตยแบบไทยๆ
ก็ไม่เคยลงโทษนักการเมืองได้สักคน
ตำรวจ-อัยการ-ศาล ต่างมีส่วนร่วมในการปล่อยนักการเมืองทุจริตให้เป็นผู้บริสุทธิ์-มีอิสรภาพ
เสียงบประมาณ-เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

  นั่นย่อมแสดงว่า
การปฏิวัติไม่ได้แก้ปัญหา การ " ทุจริต "
เพียงแต่เปลี่ยนกลุ่มนักการเมืองหน้าใหม่
ให้ได้เข้ามาทุจริตแทนนักการเมืองหน้าเก่า
เท่านั้นเอง 

  สาเหตุที่ประเทศไทย เต็มไปด้วยนักการเมืองทุจริต
เพราะ....
นักการเมืองไทย ก็มาจากคนไทย
และ....
คนไทยส่วนใหญ่ยอมรับการทุจริต

  จากการสำรวจหลายต่อหลายครั้ง
พบว่า คนไทย เกือบ 70 %
ยอมรับการทุจริตของนักการเมือง
ที่เสนอผลประโยชน์ให้กับตน
อาทิเช่น การช่วยเหลือแบบพึ่งพา การให้เงินเพื่อซื้อเสียง รวมถึงเสนอนโยบายรัฐ ฯลฯ
เรียกว่า คนไทยส่วนใหญ่เห็นแก่ตัว
เหนือกว่าชาติบ้านเมือง

  คิดกันคร่าวๆ จะได้ว่า
ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง
เมื่อคนไทย 70 %  เลือกนักการเมืองทุจริต
แน่นอนว่า ย่อมได้รัฐบาลทุจริตมาปกครอง มาบริหารประเทศ
ตามหลักการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย
แบบนี้ ปฏิวัติ ไปกี่ครั้ง
ก็แก้ปัญหาการทุจริตของรัฐบาลไม่ได้

  ลองคิดกันง่ายๆ
แค่ยอมรับการทุจริตของคนอื่น ยังมีจำนวนคนมากถึงเพียงนี้
หากมีโอกาส คนไทยที่พร้อมจะทุจริตด้วยตัวเอง
น่าจะมีมากกว่า 70 %
อาจจะมากถึง 90 %
ก็เป็นไปได้ ?

  จากที่ได้กำเนิดและอาศัยบนแผ่นดินไทยมาตลอดชีวิต
ผู้เขียนพบว่า ปัญหาการทุจริต ไม่ได้มีแต่ในรัฐบาลเท่านั้น
นักการเมืองท้องถิ่น , ข้าราชการ , รัฐวิสาหกิจ , พ่อค้าแม่ค้า , กรรมกร , เกษตรกร
แม้แต่ พระภิกษุ-สามเณร-แม่ชี ฯลฯ
เรียกว่า ตลอดทั่วทุกภาคส่วนของประชาชนในสังคม(ทุกภาคส่วน ไม่ใช่ ทุกคน)
คนจน คนรวย ชนชั้นกลาง
ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ชายและหญิงก็ว่าได้
ต่างมีพฤติกรรมการทุจริตแทบจะทั้งสิ้น
มากบ้างน้อยบ้างตามแต่จะมีโอกาส

  ความเสียหายของประเทศชาติ
อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการทุจริต
จึงไม่ได้เกิดจากการกระทำของรัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว
หากแต่ว่า เกิดจากประชาชนคนไทย
ทุกภาคส่วน

  แล้วแบบนี้
จะปฏิวัติรัฐบาลไปทำไม ?

  ผู้ที่ควรถูกปฏิวัติเป็นการด่วน
คือ " คนไทย ทั้งประเทศ  "

  จึงขอเชิญคนไทยทุกคน
ให้มาร่วม " ปฏิวัติ การยอมรับการทุจริต "
ให้หมดไปจากจิตใจของคนไทย
ให้หมดสิ้นจากผืนแผ่นดินไทย

  นั่นแหละ จึงจะเป็นวิธี " ปฏิวัติ "
ที่แก้ปัญหาการทุจริตในประเทศไทยได้อย่างถาวร
เปรียบเสมือนการถอนหญ้าขึ้นมาทั้งราก
ย่อมแก้ปัญหาการงอกใหม่ของหญ้าได้ อย่างสิ้นเชิง ฯ


๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๖

กรณีของนายรักเกียรติ อดีต รมต.สาธารณสุข  ไม่ได้ถูกดำเนินคดีเพราะการปฏิวัติ
และไม่อยากคิดว่าเป็นผลงานของกระบวนการยุติธรรมไทย 
เพราะนายรักเกียรติไม่หนีไปต่างประเทศ แต่หลบอยู่ในกทม.หลายปี 
ออกกำลังกายในสวนสาธารณะกลางกทม. เป็นประจำ จนมีคนโทรไปแจ้งตำรวจให้มาจับ
ถูกจำคุกไม่กี่ปี ไม่สามารถยึดทรัพย์ที่ทุจริตไปได้เลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น