คิดให้เป็น
รักให้เป็น : กลอนคติสอนใจ
(ฉันทลักษณ์ที่ผมคิดประดิษฐ์ขึ้นมาไหม่ สัมผัสเน้นที่เสียงไม่ใช่รูปสระ ต้องการเน้นเนื้อหา จึงมีบางวรรคที่มีจำนวนคำมากเกินไปหน่อย)
๏ ในความ มืดดำ ของค่ำคืน............ยินเพียง
เสียงสะอื้น อันขื่นเศร้า
ครวญใจ ความยวด แสนปวดร้าว.......ดุจจะ ด่าวดิ้น สิ้นอาสัญ(ยวด=เป็นที่สุด)
เมื่อคน ที่ตน
ปรนเปรอรัก.................หมายสมัคร ภักดี ปรีดิ์เปรมหรรษ์
พร้อมร่วม ฤดี ร่วมชีวัน.....................เสมอ สวรรค์ พิมานแมน
๏ มากลับ มากลาย ทำร้ายตน..........มากลาย
เป็นคน ทรยศหักหลัง
รุกราน พิมาน
พาลจนพัง..................ไม่ใช่ เช่นหวัง เคียงข้าง-หวงแหน
คอยทำ ให้แต่
แค่เป็นทุกข์...............ไม่ใช่ ศรีสุข ปรีดาแสน
คอยมอบ
ให้สรรพ ซวนคับแค้น..........อัดแน่น สุมไฟ ในอุรา
๏ ในความ มืดดำ ของค่ำคืน.............ยังไม่
ทะมื่น เท่าใจมืดมน
หทัย วายวุ่น
ครุ่นคิดสับสน................ใยต้อง ทุกข์ทน ? กมลกังขา
เราเฝ้า
ทุ่มเท ทุกอย่างสิ่ง.................รักเขา ยิ่งชีวี ดวงชีวา
แต่ผล ของความ
คร่ำอุตสาห์............คืออาช (ชะ)ญา น้ำตานอง
๏ หากไม่ บอกเธอ
คงไม่รู้................เธอแหละ คือผู้ ที่ทำผิด
คอยวาด คอยฝัน
ปั้นนิมิต..................ประดิษฐ์ เลิศรัก อยากจับจอง
ฝันว่า จะได้
เพียงรักแท้.....................เธอจึง ไม่แล คนทั้งผอง
พินิจ พิศใคร่
ครวญไตร่ตรอง..............น้อยคน ผุดครอง ผ่องนิรมล
๏ เธอพร้อม รับรัก
อย่างมักง่าย..........เพราะกลัว เดียวดาย ไม่อยากเปลี่ยวเปล่า
ความคิด
ของเธอ พร่ำเพ้อเข้า.............ไม่เอา(ใจ) ใส่เหตุ อาเพศผล
เธอรับ คนทราม
ตามเคียงคู่................จึงอยู่ คู่เคียง เพียงทุกข์ท้น
การไม่
เลือกคบ เลือกรักคน................คือทาง ขัดสน แสนจนใจ
๏ หากต้อง ทุกข์ข้อง เพราะครองคู่......การอยู่
คนเดียว เทียวดีกว่า
มิควร เทวษ
สมเพชหา.......................เสาะว่า เนื้อคู่ อยู่หนไหน
เมื่อขาด คนดี
ที่ควรคู่.........................ยามอยู่ คนเดียว เปลี่ยวเหงาใย ?
สุขกว่า
เคียงคน มนสาไถย..................เหยียบย่ำ ทำร้าย จนตายเอย ฯ
๗ กันยายน
๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น