ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

เสียงร่ำไห้..จากห้วงลึกของหัวใจ : กลอนเปล่า



เสียงร่ำไห้..จากห้วงลึกของหัวใจ : กลอนเปล่า

ในอดีตที่ผ่านเลย
ฉันคุ้นเคยกับการได้ยินเสียงร่ำไห้
จากห้วงลึกของหัวใจ
ที่เหน็ดเหนื่อย...อ่อนไหว....และเคว้งคว้าง

หัวใจที่ใฝ่ฝันร้อยพันอย่าง
หัวใจที่ผิดหวังร้อยพันสิ่ง
หัวใจที่ไม่เข้าใจความเป็นจริง
เที่ยววิ่งไล่...ใฝ่ฝัน...ทะยานทะเยอ

ความคิดผิด นำพาชีวาพลาด
จิตใจบาดเจ็บ บอบช้ำ ซึมเศร้า
ฉันมักเฝ้าเหม่อมองดูท้องฟ้า ปรารถนาถึงดวงดาว
สายตาที่มืดมน...เฉื่อยเฉา 
ค้นหาแสงสว่างพร่างพราวไม่พบพาน

 ด้วยความด้อย น้อยความคิด
ดวงจิตได้แต่ภาวนาว่าคงสักวัน
เราจะพบกัน...
ฉันและฝัน
อย่างไม่แปรผัน...ปันเปลี่ยนไป

แต่ซ้ำแล้วและซ้ำเล่า
ที่ลองเสี่ยงก้าว...ล้ม และตรมตรอมใจ
ฉันจึงเริ่มฉุกคิดขึ้นได้
ว่าการมีชีวัน นั้นยากเพียงใด
และเราคงขาดไร้ สติปัญญา

จึงสู้เสาะบ่มเพาะความรู้
มุมานะเพื่อจะไปสู่ สัจจ์แสงแสวงหา
จนสุดท้ายจึงได้พบ และประสบศรัทธา
ในพุทธศาสนา...สาธุการ

ด้วยการปฎิบัติตามคำสอน
แสงสว่างเริ่มซอนซอก ทั่วไปในใจฉัน
หัวใจที่อ่อนแอ พ่ายแพ้และเขลาพาล
เริ่มแกร่ง...กล้า...หาญด้วยสติปัญญา

ฉันปล่อยความฝัน...ให้ไปตามฝัน
เลือกอยู่กับปัจจุบัน ลดความอยากทะยานนานา
ค่านิยมโลกีย์ทั้งหลาย มิไล่ล่า
พินิจ...พิจารณา...หาเหตุ-ผล

แม้ว่าฉันจะโง่เขลา
แต่การเฝ้ารักษาดวงกมล
ระวังใจ มิให้ก่อ อกุศล
ความหม่นหมองพร่องพ้น จน...สคราญพานผ่องใส

บัดนี้ฉันเลิกใฝ่ฝัน
เลิกทะเยอทะยาน ตะบี้ตะบันไป
เผชิญหน้ากับธรรมชาติที่เป็นจริง แสนยิ่งใหญ่
ทำในสิ่งที่ควรทำ และพยายามทำตามเป้าหมาย
โดยไม่คิดคาดหวัง...ให้ผิดหวัง

 เสียงร่ำไห้ค่อยเลือนหาย
ความมั่นคงธำรงใจ ไม่เคว้งคว้าง
ดูชีวิตราวกับเงาของความเปล่าว่าง
ทุกสิ่งที่โลกมีล้วนไม่จีรัง
ใครจะอยากอะไร...จะทำอะไรก็ช่าง...
ไม่นำมาวางไว้ในดวงวิญญาณ์
...ใจก็จะสบาย

ผู้คนดิ้นรน วิ่งวน จนอับ
ชีวิตกระสับกระส่ายกระหาย
ไปกับ ของที่นิยมนับ ว่า " มีมูลค่า "
ส่วนฉันหยุดวิ่ง เพราะยิ่งพบพานสัจจา
" ความสงบสุข มีคุณค่า "...เหนือกว่าอะไรทั้งสิ้น ฯ


๒๖ กันยายน ๒๕๕๖

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น