ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2556

ถูกด่า อย่าถือโทษ : กลอนคติธรรม(กาพย์ยานี๑๑)




ถูกด่า อย่าถือโทษ : กลอนคติธรรม(กาพย์ยานี๑๑)

    แว่วเสียง สำเนียงใส..............ร้องของไก่ ใคร่แข่งขัน
ตีห้า ต่างประชัน........................เพลงเสนาะ ไพเราะนวล

    อัจฉรา อุษาโยค....................ประโลมโลก เวียนวกหวน(อัจฉรา =ชั่วพริบตา)
เสกสรรค์ สีรัญจวน......................จำรัสฟ้า จองอรุณ

    ปลายเท้า ที่เปล่าเปลือย..........เดินเรื่อยๆ ตามควาย; ฝุ่น
อายดิน กลิ่นละมุน......................ทางคุ้นเคย มุ่งท้องนา

    ทำตาม ความคุ้นชิน.................ธรรมท้องถิ่น เคยกินหา
พ่อแม่ แลปู่ย่า.............................ตายายยึด ประพฤติยล

    ใครเขา เรียก " ชาวนา "............ชั้นต่ำช้า ข้าฯบ่สน
คุณค่า ความเป็นคน......................ตั้งอยู่บน กุศลธรรม

    พากเพียร ติเตียนใคร................มัวหมองใจ ไม่ถลำ
เลวก่อ รอเวรกรรม.........................ทรามวิกฤติ ติดตามตน

    ถูกด่า อย่าถือโทษ.....................อันความโกรธ คืออกุศล
กิเลส เจตน์วิกล.............................คำรนบาป หลาบฤดี

    ละกรรม กระทำชั่ว......................ไม่ต้องกลัว ตัวเสื่อมศรี
กระทำ แต่ความดี............................สิริสรรพ ทรงกัปกัลป์ ฯ

๘ มีนาคม ๒๕๕๖

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น