ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2556

ชีพใคร ใจมัน : กลอนคติสอนใจ



ชีพใคร ใจมัน : กลอนคติสอนใจ

    กระดาษ เปล่าๆ...............บอกเล่า เรื่องราว หลากหลาย
ความคิด กรีดกราย...............ขยาย ขยับ จับจร

    กระดาษ วาด-เขียน..........พากเพียร เจียนสัก อักษร
ร้อยบท รสกลอน..................อาทร อาเทศ เจตจินต์(อาเทศ=คำบอกเล่า)

    แม้นว่า กระดาษ...............เกลื่อนกลาด ลาดเส้น เล่นศิลป์
ที่ว่าง ยังทิน.........................ประคิ่น ประคัลภ์ จรรโลง(ทิน=ให้แล้ว,ประคิ่น=บรรจง,ประคัลภ์=ความสามารถ)

    อนึ่ง ชีวา.........................เหมือนว่า ว่างเปล่า เท่าโถง
ไร้สิ่ง ยึดโยง.........................โล่งร้าง ว่างเว้น เป็นไป

    แท้มี ชะตา.......................ชักพา สลัก ผลักไส
ตามกรรม  ทำไว้....................แต่ครั้งใน อดีตกาล

    สัจจา ปรากฎ.....................กำหนด โครงสร้าง พื้นฐาน
ชีวัน บันดาล..........................ให้พาน ให้พบ ปรบเป็น

    ทว่า ยังมี...........................ที่ว่าง กว้างใหญ่ ให้เห็น
เพียรธรรม บำเพ็ญ...................ก่อกรรม ทำเข็ญ เฟ้นเอา

    สร้างสรรค์ ปัญญา................หรือว่า บ้าบอ ล่อเขลา
เพิ่มสุข ปลุกเร้า.......................หรือร้อนเร่า เศร้าโศกศัลย์

    อยู่ที่ จิตใจ..........................นิสัย ของใคร ของมัน
นาวี ชีวัน.................................สังสาร ฟันฝ่า ประจญ ฯ

๑๔ มีนาคม ๒๕๕๖

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น