ในความวิเวก : กลอนคติธรรม
๏ ณ วันหนึ่ง ในรอยต่อ ของฤดู ร้อนมาสู่ จู่โจม
ประสมหนาว
ใกล้กาลยล สนธยา
ราตรียาว ปัจฉิมราว
เศร้าสร้อย ร่อยแรงไร(ปัจฉิม=ทิศตะวันตก)
๏ แสงสุรีย์ หิรัญ อันอุ่นอบ มาบรรจบ พบเมฆา นภาไสว
เมฆชั้นสูง สีชมพู
ดูเยาว์วัย เมฆชั้นต่ำ (สี)ฟ้าคล้ำใต้ ไล้คีรี
๏ ลมไม่พัด พนัสพบ สงบนิ่ง เพียงเสียงไม้
ผลัดใบทิ้ง สิ่งสักขี
ความดำรง คงอยู่ของ
ผองชีวี ในคราที่ ขมุกขมัว
ทั่วพนา
๏ ใครกันเล่า จะเข้าใจ ใคร่วิเวก คุณอเนก
อริยสัจ รัตสิกขา(รัต=ยินดี)
ใครกันเล่า เข้าฤดี
วิราคา(วิราคะ) มัชฌิมา มรรควิถี
มุ่งนิพพาน
๏ วิเวกกาย ต้องไกลหมู่
สู่คณะ วิราคะ=ฉันทะไร้
ในกามขาน
แม้ยังใคร่ ไม่สละ
ปฏิญาณ วัฏสังสาร ยากราญสิ้น
จากจินต์ใจ
๏ วิเวกจิต ด้วยกระทำ
กัมมัฏฐาน เข้าถึงฌาน
สมาบัติ นิรัติศัย(นิรัติศัย=ประเสริฐยิ่ง)
ปราศนิวรณ์ อกุศล
ผลอำไพ อนุสัย ได้สยบ
พบสุขพลัน
๏ อุปธิ วิเวก เฉกวิเศษ ไร้กิเลส ตัณหา
อุราหรรษ์
ไม่เดือดร้อน ดิ้นรน มลทินรัน ไม่มีทุกข์
เป็นสุขสันติ์ นันทาเอย ฯ
๒ มีนาคม ๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น