ไฟบาป : โคลงสี่สุภาพ
๑. เหมันต์หวนมาให้................หนาวเห็น
ยามรุ่งยิ่งเยือกเย็น..................สั่นเร้า
ลมพัดเป่าปานเป็น...................พยุหะ
ฟืนก่อไฟผิงเข้า.......................ขื่นถ้วนพอทน
ฯ
๒. เตโชโชนลุกไหม้..................สุมขอน
เพลิงพลุ่งโพลงภาส
วร..............วัชเว้น(วัช=โทษ)
เปลวนาฏะอรชร........................โชติช่วง
เริงเร่าเผาผลาญเค้น...................แผ่ร้อนพรรลาย
ฯ(พรรลาย=มากมาย)
๓. ฟืนแลเป็นผู้สร้าง....................เปลวไฟ
ไฟเล่า..ฟืนอาศัย........................โชติเชื้อ
ยิ่งโหมเหิมเกริมไกร.....................ลุกเร่า
ไฟยิ่งกลืนฟืนเฟื้อ........................ป่นปี้บรรลัย
ฯ
๔. เปรียบประดุจชนชั่วช้า...............สามานย์
บาปก่อสถุลการ...........................ฉลฉ้อ
ทุจริตผิดพฤติพาล........................โผนผง่าน
หลงว่าเลิศเพริศข้อ.......................เสื่อมไร้สวาสดิ์หลง
ฯ(สวาสดิ์=รักใคร่)
๕. บาปกรรมย่อมตามให้.................เผด็จผล
ความชั่วพัวพันดล..........................เดือดร้อน
ตกยากลำบากบน...........................ทัณฑกิจ
ทุกข์สาปบำราบย้อน........................เผาไหม้ภัยผลาญ
ฯผบำราบ=ปราบ)
๖.
ชาตินี้อาจแม้ไม่...........................เห็นผล
เพราะเก่ากรรมนำกล........................เกศเกื้อ
ชาติต่อไปปราศหน..........................ทางปลีก
ชาติชั่วทุรลานเรื้อ............................เริดร้างทางเขษม
ฯ(เริดร้าง=จากไปกลาง
คัน)
๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น