ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557

รักอย่างไร ? : กลอนจรรโลงใจ



รักอย่างไร ? : กลอนจรรโลงใจ

    หนาวไหม ? คนดี.................จะคลี่ ผ้าห่ม รมย์ให้
ตระกอง กอดไว้.......................เพื่อไอ กายอุ่น กรุ่นสนอง
ฝนเนา เช้านี้...........................เมฆี มีคละ ฟ้าครอง
บังสูรย์ บูรณ์ส่อง......................เสียจน หม่นหมอง นองนภา(บูรณ์=เต็ม)

    แม้ไม่ สาดแรง....................แต่แสง เรืองรอง ก่องสม(ก่อง=สว่าง)
แม้ไม่ มีลม..............................หนาวเย็น ระดม โถมถา
แม้เพียง เคียงกาย....................." รัก " ถ่าย เทอุ่น อุรา
แม้ไร้ วาจา..............................ภาษา(กาย) สื่อรัก ภักดี

    มิเห็น แก่ตัว.........................คือหัว ใจสื่อ ใครรัก
เอาใจ ใส่ฝัก.............................พิทักษ์ เพียงพ้อง ซ้องศรี
ร่วมทุกข์ ร่วมสุข........................ร่วมปลุก ปลอบโยน ปรนมี
ยามยาก ไม่หนี..........................ยามมี ยินดี แบ่งปัน

    ระยะ เวลา............................สถา นการณ์ ขันคับ
คือคำ ตอบกลับ.........................รองรับ " รักแท้ " / แค่หรรษ์ ?
" รัก " นี้ มีค่า............................หรือว่า (แค่)หวังมา สนุกกัน ?
ตัวใคร ตัวมัน.............................หลังผ่าน สัมพันธ์ นันทา

    อยากเป็น เจ้าของ...................อยากครอง ลองลิ้ม ชิมรส ฯลฯ
มากมาย ไปหมด.........................ชวนสลด ลดทอน ปรารถนา
ลมๆ แล้งๆ.................................ตกแต่ง รักแจง วาจา
เป็นตาม ประสา...........................คนบาป หยาบช้า สามานย์

    อย่ามัว เพ้อฝัน.......................ชีวัน นั้นต่าง ละคร
ใจคน ซับซ้อน............................ความคิด ยอกย้อน คลอนขาน
รักแล แพร่หลาย.........................แค่ " คล้าย " (แต่)ไม่ใช่ สัจการ
คู่เคียง เรียงลาน..........................พบพาน เพียบแต่ (เห็น)แก่ตัว ฯ


๔ มีนาคม ๒๕๕๗

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น