ครรลองครองรัก : กลอนเปล่า
๏ ดวงฤดีอันมีศีลธรรมค้ำจุน
ย่อมหยุดวารเวียนหมุน
มิวุ่นวายไปตามกระแสธารของความมารยาสาไถย
๏ ธรรมะเมื่อปกเกล้า
ประดุจดั่งเสาวนีย์แห่งเทวีผู้ปรีชาชัย
ควบคุมจิตติดตามใจ
มิให้หลงใหลไปสู่ลู่ทางสร้างมลทิน
๏ เมื่อดวงใจสุจริต ความคิดสุทธิ์สะอาด
ย่อมเกิดกุศลกรรม-สัมมาวาท
ปรากฏปานปริมาส (ปริมาส=พระจันทร์เต็มดวง)
งดงามไร้ทรามสิ้น
งดงามไร้ทรามสิ้น
๏ ความละอาย-สะดุ้งกลัวต่อบาป
ทาบทา หฤทัย
เปรียบได้ดั่งอาภาแห่งสุรทิน
นำพาชีวิน
โบยบินพ้นปลักตมโสมมมี
โบยบินพ้นปลักตมโสมมมี
๏ ความพรั่งพรูของความรู้สึก " รัก "
มิใช่สักแต่ว่าต้องตาใคร ก็ดำเนินไปไร้รอรี
การตระหนักคะนึง
ถึงสถานะ-บทบาท-หน้าที่
สำนึกตรึกตรองในครรลองของความผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี
เป็นวิถีที่ต้องพิจารณา
มิยอมให้อุราคล้อยตามอารมณ์ตะบมไป
๏ ความอดทน-สะกดกลั้น-ข่มจิต
สร้างสัมฤทธิ์แห่งฤดีให้มิอ่อนไหว
การรู้จักสังเกต-หาข้อมูล-วิเคราะห์
ก็คือเวทมนตร์อันทำให้รู้จักบุคคล
คุณลักษณะ-ทัศนคติ-นิสัย-จิตใจฯลฯของใครต่อใคร
แล้วจดจำไว้เพื่อใช้ ให้เกิดประโยชน์ต่อความสัมพันธ์
๏ เมื่อชีวิตก้าวผ่านไปถึงซึ่งความพร้อม
แวดล้อมวัย-ฐานะ-ความรู้-ความสามารถและคุณสมบัติอันจำเป็น
จึงค่อยเลือกเฟ้นที่จะสมัครสมาน
ประสานสัมพันธ์กับผู้หนึ่งผู้ใด
ที่มีข้อมูลอยู่แล้วในใจ
ว่ามิไร้คุณสมบัติ-ความพร้อมเฉกเช่นกัน
ว่ามิไร้คุณสมบัติ-ความพร้อมเฉกเช่นกัน
อย่างสร้างสรรค์ ค่อยเป็นค่อยไปไม่ผลีผลาม
๏ ความรู้-ทัศนคติ-ค่านิยมที่ถูกต้อง
จะเป็นปราการป้องกันความผิดพลาด
ความไม่ประมาท
ประหนึ่งศาสตรา
กำจัดความปราชัย
ช่วยมิให้พ่ายแพ้แก่อุปสรรคของความรัก
ช่วยมิให้พ่ายแพ้แก่อุปสรรคของความรัก
๏ ไม่ใช่เพื่อความมัวเมา
ไม่ใช่เพราะความโง่เขลา
ไม่เอาตัณหา-ราคะเป็นที่ตั้ง
ไม่ดันทุรัง
ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นวิถีที่ไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม
คือครรลองครองรัก
ที่ต้องตระหนักและภักดี
เพื่อการบรรลุสุขีแห่งชีวันนิรันดร
ฯ
๑๐ มีนาคม
๒๕๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น