ฝันกลางวัน : กลอนเจ็ด
๏ ร้องเพลง รัก(เสียง)ดัง
ตั้งแต่เช้า............เพลงแล้ว เพลงเล่า เฝ้าขับขาน
บ่สน คนส่ำ
คิดรำคาญ..............................ชื่นบาน มานเบิก เหมือนฤกษ์ดี
๏ ดูละ ครรัก มิพัก
ลุ้น..............................พระ-นาง ชุลมุน สุนทรศรี
ดั่งตัว
เองต้อง ข้องกรณี............................เป็นชี วีตน วนเวียนไตร(ไตร=ไกร)
๏ เพลงจร ละครจบ
พบสัจจะ.....................ชีวะ(ตน) หามี ที่เคียงใกล้
ขาดคู่ สู่รัก
พิทักษ์ใจ................................วันวาร ผ่านไว เดียวดายเวร(กรรม)
๏ หน้าตา อย่าจ้อง
มิต้องจิต......................ชีวิต อิดหนา ระอาเห็น
ฐานะ
อนาถ ขาดแคลน;เป็น........................อยู่คู่
ความเข็ญ มิเว้นคืน
๏ บรรเลง เพลงเจือ
เพื่อปลอบจิต...............ละคร ชีวิต ติดใจชื่น
เป็นสิ่ง
ประโลม ใจกลมกลืน.......................ถึงไม่ ยั่งยืน มื่นนิรันดร์
๏ ลางคน ยลด้วย
(เพลง,ละคร)ช่วยอยู่ได้.....ต่อสู่ ต่อไป ไม่โศกศัลย์
แม้เพียง
เมียงพราง ฝันกลางวัน.................(ก็)ดีกว่า
ไร้ฝัน ลานฤดี
๏ (เพลง-ละคร)คือสิ่ง บันเทิง
เริงหทัย..........ช่วยให้ คลายผ่อน ทอนเศร้าศรี
ลืมเลือน
ปัญหา ประดามี.............................ชีวี พีพรั่ง พลังใจ
๏ เมื่อรัก มักฝัน
มิหยันดอก.........................(แค่)อย่าหลอก ตัวตน จนหลงใหล
ลืมความ
เป็นจริง สิ่งจังไร............................(ยัง)เคียงกาย ไขก้อง ต้องประจญ
๏ ฝันเพลิน เกินไป
ไร้ประโยชน์...................(ยัง)ก่อโทษ แก่ตัว มัวเมาหน
ทอดทิ้ง
จริงเกณฑ์ เยี่ยงเล่นกล....................หลอกตน (แค่)คนเดียว คดเคี้ยวเอย ฯ
๑๒ มีนาคม
๒๕๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น