พึ่งตนเป็นที่ตั้ง : กลอนเปล่า
๏ คืนนี้...คงหนาว
หลังจากฝนรินหลั่งราวสองทุ่ม
ดินผืน...ที่ชื้นเปียกชุ่ม
นุ่มนวลงาม
ยามสะท้อนแสงไฟ
๏ ก่อนที่จะมีฝน
สายลมกระโชก รน
จนเรือนสั่นไหว
ก่อนที่จะเกิดความเข้าใจ
ฝนก็รินหลั่งไหล
ส่งท้ายให้เหมันต์
๏ หอมกลิ่นสุคนธ์ ของฝนปลายหนาว
แม้ไร้ซึ่งแสงดาว
แวววาวพราว...นภาผัน
แต่หัวใจ
ให้เป็นสุขสำราญ
ผสมกับความมุ่งมั่น
พร้อมรับคิมหันตฤดู
๏ ทุกสิ่งอย่างย่อมผ่านพ้นไป
ประโยชน์อะไร
กับการจะไปหดหู่(กับอดีต)
ดีแต่มองอนาคต
จดจ่อขอขับสู้
อย่าได้เป็นผู้
ที่อยู่อย่างไม่คิดสร้างสรรค์สิ่งอันใด
๏ ชีวิตทุกคน ย่อมพึ่งตนเป็นที่ตั้ง
ความผิดพลาดพลั้ง
อันเคยสั่งสมถมไว้
ตนจะต้องรับผล
มิอาจโอนไปให้ใคร
ส่วนความสำเร็จทั้งหลาย
ขาดไม่ได้คือความสามารถของตน
๏ ปัญญา...เป็นเสมือนเครื่องมือสารพัดนึก
การอ้างอิงความรู้สึกผนึกเข้า
ย่อมเท่ากับทำสับสน
ยิ่งเอาอารมณ์ผสมผสาน
สืบเป็นสันดานของใครหลายคน
ยิ่งก่อเกิดความอลวน
จนอลหม่านวุ่นวาย
๏ ไม่นาน...ฝนพลันสิ้นสุด
ขอหยุดกิจกรรม
ยุติความขวนขวาย
ล้มตัวลงนอน
หนุนหมอนอ่อนนุ่มสบาย
หลับตา
อำลาสรรพสิ่งทั้งหลาย
หายใจเบาๆ...เข้าสู่ห้วงนิทรา
ฯ
๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น