ตนแลเป็นที่พึ่งของตน
: กลอนคติเตือนใจ
๏ ลมหนาวพัด พาให้
ได้รู้กาล................ฤดูแห่ง เหมันต์ ผ่านมาถึง
ร้อน-ฝน-หนาว เคล้าคละ
ควรคะนึง...........พึงรักษา สุขภาพ สดับภัย
๏ โรงพยาบาล ลานล้น
คนเจ็บป่วย..........หมดทางช่วย ด้วยหมอ ก็มากไม่
ใช่พี่น้อง ของตน
คลายสนใจ..................ทำงานไป ปกติ มิอาดุร
๏ อาชญา ฆาตกรรม
วัน-ค่ำเกิด..............ตกตะลึง พึงเพริด ตำรวจสถุล
อัยการ ผู้พิพากษา
ทนายจุน-..................เจือนายทุน-นายท่าน สามานย์มี
๏ จงอย่าหวัง พึ่งใคร
เป็นอันขาด............ด้วยโลกา ดารดาษ พาลบัดสี
ยากจักหา สาธุชน
คนใจดี......................ผู้อารี ฤดีเรื่อ ช่วยเหลือเรา
๏ แปดชั่วโมง จงนอน
อย่าจรจาก...........ถ้าไม่อยาก หน้าย่น หม่นเหี่ยวเฉา
เสื่อมสติ พิจารณ์
ปัญญาเบา...................เป็นผู้เฒ่า ก่อนวัย กายอันควร
๏ โภชนา อาหาร
อย่าคร้านขาด..............เรื่องรสชาติ ความอร่อย ค่อยคอยขวน
อาหารที่ มีโทษ
โปรดใคร่ครวญ...............อย่ารัญจวน ยวนรส จดจ่อจินต์
๏ (การ)ออกกำลัง วังชา
อย่ารังเกียจ........โรคภัยไม่ เบียนเบียด ความเครียดสิ้น
สุขภาพ
ตราบดี->สุขชีวิน........................การทำมา
หากิน ย่อมภิญโญ
๏ รู้เลือกเสพ เลือกละ
เลือกปฏิเสธ...........สารสนเทศ เภทร้าย มากมายโข
สังคมทัศน์ ปัจจุบัน
ลานเฉโก...................ชักชวนโง่ โมหะ อันธพาล
๏ ถือลาภ-ยศ-สรรเสริญ
เพลินที่พึ่ง...........มิคำนึง ถูก-ผิด ทุจริตหาญ
ศีลธรรม สำนึก
สึกกันดาร.........................จิตใจพล่าน ร่านรน จนอัปรีย์
๏ จริยวัตร ศรัทธา
จงปฏิบัติ.....................โลกีย์หัด ตัดให้ พิไลศรี
รู้บาป-บุญ-คุณ-โทษ-โฉด-ชั่ว-ดี................จึงจักมี
ชีวัน สุขสันติ์เอย ฯ
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น