ชัยชนะ : กลอนแปด
๏ เมื่อดวงเดือน เคลื่อนคลา
นภาจาก.........ดารากราก หลากกรู ชุติศรี
เมื่อเมฆา
มาลับ กับราตรี...........................ค่ำคืนนี้ ฟ้าใส ดาวพรายพรม
๏ หริ่งเรไร ใสเสียง
สำเนียงขับ.................และตอบรับ กลับขู่ สู้เสียงขรม
ไม่มีใคร
ยอมใคร ไพรระงม........................แรงระดม ข่มป้อง ข้องประชัน
๏ เพื่อที่อยู่ ที่กิน
ถิ่นอาศัย........................ธรรมชาติใคร่ คัดกรอง ต้องแข่งขัน
เพื่อถ่ายทอด
เทือกเถา สืบเผ่าพันธุ์.............จึงประจัญ พันตู ต่อสู้มี
๏ ในหมู่คน มิพ้น
กลขันแข่ง......................การยื้อแย้ง แกล้ง-โกง ยงวิถี
บ้างแข่งขัน
สรรค์สร้าง ทางที่ดี....................แต่มากมี กลีกรรม มุ่งทำลาย
๏ เพียงเพื่อให้ ได้ชู
เป็นผู้ชนะ...................ไร้สาระ ฆ่าฟัน กันฉิบหาย
ประวัติศาสตร์
จารึก พิลึกกลาย....................ตั้งผู้ร้าย= มหาราช มาดสูงส่ง
๏ ธรรมดา สามานย์
สันดานคน...................มากมายนับ สับสน มนใหลหลง
ชอบชื่นชู
ผู้ชนะ ละธำรง.............................ความซื่อตรง ศีลธรรม กรรมาคุณ
๏ เชิดชัยชนะ กาลี
ของกิเลส......................เป็นสาเหตุ เภททำ พร่ำสถุล
เป็นความด้อย
พัฒนา ปัญญาดุล...................เป็นสิ่งสุญ คุณไร้ ไม่เข้าที
๏ " ชนะตน คนเดียว เทียวประเสริฐ "............ไม่ละเมิด จริยา ธรรมาศรี
ละกิเลส
ตัณหา อุปธี...................................คือวิถี พุทธา ปรัชญาเอย ฯ(อุปธี=อุปธิ=กิเลส)
๑ พฤศจิกายน
๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น