ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

จงมีตนเป็นที่พึ่ง : กลอนหก



จงมีตนเป็นที่พึ่ง : กลอนหก

    มั่งมี->พี่น้อง ข้องแวะ............เพื่อนผอง กระแดะ อุปถัมภ์
ระเหิน ระหก ตกต่ำ....................แม้คำ ทักทาย ไม่มี

    มีเงิน เขานับ เป็นน้อง.............มีทอง พ้องรับ เป็นพี่
เมื่อเงิน ทองไร้ ไม่มี...................(ความเป็น)น้องพี่ ขี้คร้าน บรรลัย

    นี่คือ ธรรมดา มนุษย์...............ไม่มี พิสุทธิ์ พิสัย
อกุศล มลทิน ชินใจ....................เสื่อมไส ในศีล จินดา

    ต่างคน ต่างจิต ต่างใจ.............เงื่อนไข ในการ คบหา
ตามความ มุ่งมาด ศรัทธา.............สติ-ปัญญา-กมล

    คนดี มิคบ คนชั่ว.....................คนคด โปรดพัว พันฉล
คนมี ความเห็น แก่ตน...................ยึดผล ประโยชน์ ตอบแทน

    อย่าหมาย ได้หวัง พึ่งแม้...........พ่อ-แม่-เมีย-ผัว ฯลฯ ทั่ว ; แม้น
คิดเห็น แก่ได้ ใจแกร็น..................ขาดแคลน ศีลธรรม นำพา

    " จงมี ตนเป็น ที่พึ่ง "................คำซึ่ง พุทธพาท ศาสนา
" จงพึ่ง พระธรรม " สัมมา...............ปฏิบัติ บูชา ตลอดไป

    จะมี ชีวิต ชิตชาติ......................จะปราศ จากทุกข์ สุขใส(ชิต=มีชัยชนะ)
จะเหมือน ร่มโพ ร่มไทร..................ปรกให้ ไร้ร้อน ย้อนเย็น ฯ


๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น