ดั่งอ้อมอกแม่ : กลอนจรรโลงใจ
๏ รัตติกาล สัญจร สาทรหล้า.............ศศิมา
วิภาใส ระบายศรี(สาทร=เอื้อเฟื้อ)
ไพรสถล
อนธการ พลันโสภี...............พร้อมดนตรี พิเราะ เพราะเรไร(อนธการ=ความมืดมน)
๏ แม่อุ้มลูก วัยเยาว์
เข้านิทรา............เจ้ามิ่งขวัญ มารดา มาหลับใหล
ท่องโลกฝัน
สนานสนุก สุขหัวใจ..........กล่อมลูกไป สายตา นภามอง
๏ เมฆทะมึน ครืนคราม
กำลังเคลื่อน....บดบังเดือน เบือนดาว ราวผยอง
อสุนีบาต
ฟาดผ่า ฟ้าคะนอง................ดังกึกก้อง ต้องตระหนก ตื่นตกใจ
๏ เด็กสะดุ้ง พุ่งผวา
ร้องหาแม่.............ที่รีบปลอบ โยนดูแล พูดแก้ไข
อ้อมอกอัน
อบอุ่น ละมุนละไม...............ถนอมหทัย ลูกน้อย ค่อยคลายกลัว
๏ แม่ชวนพ้อง ร้องเพลง
ครื้นเครงขับ.....เจ้าร้องรับ เริงร่า พากันหัว
ฝนกระหน่ำ
หนักใย ไม่รู้ตัว.....................จนทูนหัว งัวเงีย เพลียหลับไป
๏ ให้คำนึง ถึงชีวา
ปัญหาชิด...............ปัจจามิตร วิกฤตการณ์ รุกรานไหล
กลัดกลุ้มอก
สะทกสะท้าน หวาดหวั่นใจ...มิแก้ไข ปัญหา นานามี
๏ สู้แข็งจิต คิดให้
หัวใจสงบ................จะสยบ สรรพทุกข์ เป็นสุขี
สู้มั่นคง
ธำรงใจ ไม่โศกี........................จะบรรเทา เบาธุลี ที่บังตา
๏ อย่าโศกเศร้า เมามาย
ดวงใจเอ๋ย.......คร่ำครวญไห้ ไม่เคย แก้ปัญหา
จงยิ้มแย้ม
แจ่มใส ใจเริงร่า....................จึงเกิดมี สติปัญญา มาเกื้อกูล
๏ อย่ายึดมั่น ถือมั่น
ติดฝันใฝ่................จนความสุข เสื่อมไร้ กลายเป็นศูนย์
เท่าที่มี
เท่าที่ได้ ไม่อาดูร......................สุขเพิ่มพลัน สันติ์พูน ไพบูลย์เอย ฯ
๒๑ พฤศจิกายน
๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น