อย่าเมาธรรมะ : กาพย์ฉบัง๑๖
๏
หากลูกไม่มีอาหาร(กิน).....................อย่ามัวสมาทาน
ตัณหาละลดและสวดมนต์(ไม่ช่วยให้อิ่มท้อง)
๏
(ขยัน)ทำมาหากินชีวินดล.....................ประเสริฐสุดหลุดพ้น
ยากจน-ทรมานปัญหา(ความไม่ยึดมั่นถือมั่น
ไม่ทำให้พ้นความยากจน)
๏
เจ็บไข้ไม่สบายขึ้นมา.....................ขืนเข้าวัดวา
นั่งสมาธิ(รดน้ำมนต์)ฤาสิหาย?
๏ พึ่งหมอรักษาขอยาจ่าย......................ช่วยขจัดโรคร้าย
ดูแลสุขอนามัยให้ดี
๏ บ่มีเงินไปใช้หนี้......................อย่าเขลาเมาฤดี
ร่วมบวชชีพราหมณ์กรรมฐานฯลฯ(ไม่ใช่วิธีทำให้มีเงิน มีแต่จะเสียเงินเสียเวลา)
๏
เมื่อมีปัญหาทางบ้าน(ครอบครัว)......................สิ่งที่ต้องการ
คือหันหน้า(ร่วมกัน)แก้ปัญหา
๏
มิใช่เหลวไหลให้มา.....................ร่วม(ทำบุญ)ล้างป่าช้าฯลฯ
ปล่อยปัญหาพอกหางหมู(แล้วก็มาโทษว่า
ทำดีไม่เห็นได้ดี)
๏
เมื่อเกิดทุกขังพรั่งพรู......................จงตั้งใจดู*
รู้ต้นเหตุ-ใช้เหตุผล
๏ อย่าเมาธรรมะ จะ(เดือด)ร้อนรน......................เกิดอกุศล
(ชีวิต)เวียนวนประจญปัญหา
๏
หลักธรรมพิสุทธิ์พุทธา**......................จักต้องศึกษา(ไม่ใช่คิดเอาเอง-ทำตามใจตัวเอง)
(เลือก)ใช้ถูกกาลเทศะ(บุคคล)เทอญฯ
๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓
*สาเหตุของความทุกข์มีมากมาย ไม่ใช่แค่ตัณหา-อุปาทาน
ปรากฏคำสอนอยู่ในพระไตรปิฎกหลายๆพระสูตร แต่เป็นเรื่องปลีกย่อย
และไม่ได้ยกขึ้นเป็นหลักธรรมใหญ่เหมือน อริยสัจ๔ , ปฏิจจสมุปบาท ฯลฯ
ปรากฏคำสอนอยู่ในพระไตรปิฎกหลายๆพระสูตร แต่เป็นเรื่องปลีกย่อย
และไม่ได้ยกขึ้นเป็นหลักธรรมใหญ่เหมือน อริยสัจ๔ , ปฏิจจสมุปบาท ฯลฯ
**หลักธรรมของพระพุทธเจ้ามีมากมาย
ต้องศึกษาพระไตรปิฎกให้เข้าใจ คิด-วิเคราะห์ด้วยสติปัญญา และรู้จักเลือกนำมาใช้ให้ถูกเรื่องถูกกาลเทศะบุคคล
อย่าคิดเองเออเอง อย่าทำราวกับสามารถตรัสรู้เอง เพราะไม่ใช่พระพุทธเจ้า
อย่าสักแต่ทำตามคนอื่น โดยเฉพาะคนที่ไม่ศึกษา-ไม่เข้าใจพุทธศาสนาอย่างถูกต้อง
และมีเจตนาไม่สุจริต
คนเหล่านี้้มีจำนวนมาก-หลายสถานะ ทำมาหากิน-หาผลประโยชน์ ด้วยการแอบอ้างพระพุทธศาสนาบังหน้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น