ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ปรัชญาชีวิต : กลอนคติชีวิต



ปรัชญาชีวิต : กลอนคติชีวิต

    หาความสุข ใส่ตัว คือหัวคิด.....................การดำเนิน ชีวิต ชนพิสมัย
ทรัพย์-ยศ-ศักดิ์-อำนาจฯลฯ ผูกมัดใจ...........ทุกวิธี พร้อมใช้ ให้ได้มัน

    กามคุณ สุนทร ซอนซอกเสพ....................อยู่อย่างเทพ (พะ)ยดา พล่านกระสัน
ตนเป็นเอก เป็นใหญ่ ใต้ดวงตะวัน................ชีวียืน ยาวฝัน นิรันดร์ยล

    เป็นธรรมชาติ ปรัชญา ปวงมนุษย์................ตั้งแต่บรร พบุรุษ อุตส่าห์สน
เป็นวัฏฏะ ประวัติศาสตร์ แห่งชาติชน.............ที่ผู้คน ท้นใจ หมายสืบมา

    มีคนมัก จักอ้าง ตั้ง(ใจ)ปฏิบัติ.....................ใจยึดถือ ซื่อสัตย์ ตาม(หลัก)ศาสนา
ค้นคำสอน ส่วนใหญ่ ใคร่บูชา.......................สิ่งธรรมดา สามัญ (สอดคล้อง)สันดานคน

    แต่คำสอน ขององค์ พระสัมพุทธ..................มีสามัญ-ปริสุทธิ์-วิมุตติผล
ฆราวาส ปรัชญา สาธุชน..............................ตลอดจน พ้นหลุด โลกุตระธรรม

    ค่อนข้างจะ ฝืนใจ วิสัยสัตว์..........................ต้องอุตส่าห์ ปฏิบัติ กำจัดถัมภ์(ถัมภ์=ความดื้อ,ความกระด้าง)
อธิบาย เหตุ-ผล แห่งกลกรรม........................ที่ครอบงำ ธรรมดา ทั้งจักรวาล

    *ไอสไตน์ ยังรับ ว่าพุทธสาสน์......................ทรงภาษิต วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน
สอนความจริง สิ่งสัจ ชัชวาล...........................อยู่คู่กาล เวลา ตลอดไป

    ทนวิถี พิสูจน์ ถ้าอุตส่าห์...............................ลดกิเลส-ตัณหา สามัญวิสัย
หยุดยึดมั่น ถือมั่น สิ่งอันใด.............................จะสิ้นทุกข์ สุกใส สมใจเอยฯ

๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙

*ไอน์สไตน์ = Albert Einstein 
เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง ว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20
และเป็นคนฉลาดที่สุดในโลก
เขากล่าวไว้ว่า

The religion of the future will be a cosmic religion. It should transcend personal God and avoid dogma and theology. Covering both the natural and the spiritual, it should be based on a religious sense arising from the experience of all things natural and spiritual as a meaningful unity. Buddhism answers this description. If there is any religion that could cope with modern scientific needs it would be Buddhism. (Albert Einstein) 

"ศาสนาในอนาคต จะต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน และควรจะเว้นคำสอนแบบสิทธันต์ (คือเป็นแบบสำเร็จรูปที่ให้เชื่อตามเพียงอย่างเดียว) และแบบเทววิทยา(คือพึ่งเทวดาเป็นหลักใหญ่) ศาสนานั้น เมื่อครอบคลุมทั้งธรรมชาติและจิตใจ จึงควรมีรากฐานอยู่บนสามัญสำนึกทางศาสนา ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่อสิ่งทั้งปวง คือ ทั้งธรรมชาติและจิตใจอย่างเป็นหน่วยรวมที่มีความหมาย พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้....ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุบัน ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระพุทธศาสนา" 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น