ดับไฟ : กลอนเจ็ด
๏ ฝนนำ ความเย็น
เค้นจากฟ้า................พรมผืน พสุธา วนาสัณฑ์
ค่อยหล่น
ค่อยริน ยินเสียงครัน.................เสมือนเสียง สวรรค์ วิมานแมน
๏ ความร้อน ผ่อนคลาย
มลายสิ้น.............ธรณิน ชื่นฉ่ำ ล้ำเลอแสน
เปลวไฟ(ป่า)
ปลายดับ ลับทั่วแดน............แว่นแคว้น แทนที่ เปรมปรีดา
๏ แต่ฤดี (ยัง)มีไฟ
ลุกไหม้อยู่..................พรั่งพรู กิเลส แลตัณหา
ไฟแห่ง มลทิน
จลจินดา..........................ริษยา อาฆาต อนาถครอง
๏ น้ำธรรม นำทา
หทัยดับ........................ไฟสรรพ อัประมาณ ศานติสนอง
ชุ่มเย็น
เป็นไป ดั่งใจปอง..........................เลิศล้ำ ทำนอง ทองนที
๏ จิตใส ใจเย็น
เป็นสุคติ..........................สุขศานติ์ บานผลิ วิเศษศรี
ดื่มด่ำ อำไพ
ไล้ฤดี..................................ชีวี สิสงบ ประสบงาม
๏ ดับ อ วิชชา
มิจฉาทิฏฐิ..........................บาปกรรม ดำริ ตริเกรงขาม
ศีลธรรม สัมมา
พยายาม............................ก้าวข้าม กรรมเวร เกณฑ์วัฏฏา
๏ จะได้ ไม่ต้อง
มาข้องกับ.........................รองรับ สารพัน เภทปัญหา
ร้อนเร่า
เศร้าโศก เพราะโชคชะตา................ย้อนมา ย่ำยี ชีวาลัย
๏ จะได้ อยู่เย็น
อย่างเป็นสุข.......................สิ้นทุกข์ ทรมาน สันทานไส(สันทาน=ความผูกพัน)
มิต้อง
เกิด-แก่ แลดับไฟ.............................เจ็บไข้ ตายขาด สมมาดเอยฯ
๑๗ พฤษภาคม
๒๕๕๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น