ด้านดี-ด้านร้ายในโลก
: กลอนแปด
๏ ในโลกมี อาหาร
อันรสอร่อย..................และอาหาร รสด้อย ร้อยโทษถา
กลิ่นหอมหวน
พิสุทธิ์ จากบุษบา................และกลิ่นเหม็น มลภา วะพิษภัย
๏ ดนตรีใส ไพเราะ
เสนาะโสต..................(และ)เสียงพิโรธ โหดเหี้ยม เทียมทานให้
มีสัมผัส
สำเริง บันเทิงใจ...........................ลมเย็นไล้-ไฟร้อน ทอดถอนทรวง
๏ มีคนซูบ-รูปสวย
รวยเสน่ห์......................แต่ส่วนใหญ่ ขี้เหร่ เบ้หน้าล่วง
มีความรัก
มักหลง มงคล กลวง...................และความลวง หลอกล่อ ก่อโศกี
๏ มีความเอื้อ อาทร
สะท้อนอก...................และสกปรก รกดาษ ดื่นบัดสี
คนส่วนน้อย
เมตตา มอบปราณี....................แต่ส่วนใหญ่ ไล่ขยี้ เบียนบีฑา
๏ หลากกิจกรรม ทำให้
ได้เสพสุข................และที่ทุกข์ ขลุกข้อง ส้องปัญหา
มีความรู้
วิจิตร วิทยา..................................และความเท็จ เจตนา จะทำลาย
๏ โลกเกิดก่อ ข้อดี
ที่ประจักษ์......................แลตระหนัก หลากห้ำ ทำฉิบหาย
จงมองดู
ด้านดี มีมากมาย............................แลด้านร้าย ให้เห็น เป็นสัจจริง
๏ เกิดมามี ชีวิต
คิดว่าง่าย............................แต่ความตาย ง่ายกว่า ถ้าสุงสิง
เรื่องสนุก
สนาน บันเทิงอิง............................โรคเจ็บไข้ ไล่ติง วิ่งรอบตัว
๏ อย่ามองแต่ ด้านดี
เกินมีอยู่........................อย่ามองดู ด้านโทษ จนหดหัว
สภาวะ โลกร้อน
ซ้อนน่ากลัว..........................จงอย่ามัว ประมาท ธรรมชาติเอยฯ
๑๙ พฤษภาคม
๒๕๕๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น