รอไปก็ไร้ประโยชน์ : กลอนหก
๏ ราตรี นี้ช่าง
เชื่องช้า.....................เมษาฯ อากาศ อบอ้าว
ใจล่อง จ้องมอง
ดวงดาว...................กลางหาว ก้าวพ้น ตนตัว
๏ (ใจ)ลอยไป ในห้วง เวหาส.............อากาศ
ปราศเมฆ เรขทั่ว(เวหาส=ท้องฟ้า,เรข=งาม)
ฟ้าไม่ ได้ดำ
น่ากลัว..........................แสงดาว พราวพัว พิไล
๏ ลมไร้ กรายพัด
ราตรกรุ่น................คิดครุ่น รอฝน หนไหน ?(ราตร=กลางคืน)
จึงจะ มาเยือน
เหมือนใจ....................อยากให้ คลายร้อน ผ่อนรน
๏ เปิดดู ปฏิทิน
จินดา.......................เดือนหน้า ก็ครา หน้าฝน
อย่ารอ ขอแค่
อดทน.........................ย่อมพ้น รนร้อน ผ่อนคลาย
๏ เสมือน ชะตา
ชีวิต........................(ยาม)วิกฤติ คิดคาด มาดหมาย
ทุกข์ล้น ท้นเร่ง
เคร่งคลาย.................(รอ)สุขหลาย ให้หลั่ง สล้างแทน
๏ (หาก)วิบาก ชักพา
ประสบ.............(ย่อม)มิพบ สุขคาด อนาถแสน
(หาก)บุญมี มิต้อง
ข้องแคลน..............สุขแม้น สิต้อง ส้องตา
๏ รอไป ก็ไร้
ประโยชน์......................ไม่โปรด พิบูล มูลค่า
ดีแต่ ตั้งฤดี
วิริยา...............................อุตส่าห์ พยายาม ทำดี
๏ ผลดี พิพัฒน์
ทัศไนย.....................ทุกข์ภัย ไม่พบ ประสบศรี
เคราะห์กรรม ข้ามพ้น
ชีวี.....................ทวี มีสุข สนุกเทอญ ฯ
๒๒ เมษายน ๒๕๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น