ความดี คือ ดาวสกาวใจ : กลอนจรรโลงใจ
๏ ไม่รู้ เป็นเพราะ เมฆฝน............หรือยาม
สุริยน สนธยา
แสงลับ สูญกับ
ฟากฟ้า................พนา มามืด หม่นมัว
๏ ลมปัด พัดเป่า ผ่าวร้อน.............พาก้อน
เมฆกรี ฑาทั่ว
หยาดฝน
หล่นริน ดินรัว................ชุ่มฉ่ำ น้ำนัว ไหลนอง
๏ ราตรี ที่ไร้
ดารกา....................มืดกว่า ราตรี มีผอง
เสียงฝน
หล่นนำ ทำนอง...............ซึ้งพ้อง เพลงเพราะ เสนาะไพร
๏ ชวนจิต คิดส้อง เสพสงบ...........จึงสบ
สรรพความ เคลื่อนไหว
วิตก วิจารณ์
ลานใจ......................มาให้ วิเคราะห์ เจาะดู
๏ ยกเหตุ เภทให้ ใคร่ครวญ...........ทบทวน
ธรรมทัศน์ ศาสตร์รู้
พินิจ
พิเคราะห์ เพาะสู่....................บรรลุ รู้แจ้ง เห็นจริง
๏ ต่างจาก คิดตาม ใจตน...............อกุศล
ล้นเลศ กิเลสสิง
ตัณหา
ระเหหน รนวิ่ง....................หาสิ่ง อิงอยาก หลากราย(ระเหหน=เรร่อน)
๏ แทนที่ จะพบ สงบทาง...............กลับย่าง
บนทาง กระหาย
แทนที่
จะสว่าง กระจ่างพราย...........กลับกลาย มืดมน อนธการ
๏ ราตรี ที่ว่า
มืดมิด.......................ดวงดาว พราวพิศ พิจิตรฉาน
ชีวา ถ้าทุกข์
ทรมาน.......................กุศลจิต พิสดาร ศานติ์ดล
๏ ความดี คือดาว สกาวใจ..............สุกใส
ไกรสุ กุศล
แม้ยาม ตกยาก
ลำบากยล................ย่อมพ้น ทุกข์ยาก ลำบากใจ ฯ
๒๘ มิถุนายน
๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น