ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

นิยายข้าว -ชาวนา-ควาย : กาพย์ฉบัง ๑๖



นิยายข้าว -ชาวนา-ควาย : กาพย์ฉบัง ๑๖

    เสียงฝนพรำคือคำขาน................แห่งวัสสะวาร(วัสสะ=ฤดูฝน)
เปรียบปานดนตรีที่อ่อนทุ้ม

    ล่วงสู่ฤดูมรสุม..............คันนาชอุ่ม
ปกคลุมด้วยหญ้าขจี

    ท้องนาน้ำขังยังมิมี.............ชาวนาวันนี้
ใช้วิธีหว่านคร้านปักดำ

    จ้างรถไถแทนควายทำ...............ไถนาตระตรำ
ล้ำสมัยไม่เหมือนอดีต

    ลงแขกแรกนาจารีต...............ทำนาประณีต
มิดหายไปจากชนบท

    หลากสารเคมีฉีดรด...............ทุกหยาดทุกหยด
ปรากฏเป็นข้าวเรากิน

    ตกค้างอยู่กลางธรณิน................ชีพลับดับสิ้น
อินทรีย์สารพลันเสื่อมสูญ

    รวงยังไม่สุกสมบูรณ์...............รอช้าอาดูร
รถเกี่ยวข้าวเหมาเกี่ยวไป

    ข้าวชื้น-อ่อนป้อนถุงใส่...............เร็วสรรพฉับไว
รีบขนไปขายโรงสี

    รวงข้าวสีทองของกวี...............ท่ามกลางสางสุรีย์
บัดนี้มีแต่ในนิยาย

    ชาวนาชอบความสุขสบาย................หาเงินจับจ่าย
หาได้เห็นใจคนกิน

    " คุณข้าวชาวนา " ครายิน..............." ควายทุย-โคลนดิน "
ถูกฝนรินชะละลายเลือน ฯ

๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๖

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น