ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

จดหมายจากพ่อถึงลูก เรื่อง ค่านิยมที่สร้างปัญหาต่อการดำเนินชีวิต

                                                                                    Flickr

จดหมายจากพ่อถึงลูก เรื่อง ค่านิยมที่สร้างปัญหาต่อการดำเนินชีวิต

 ลูกรัก.... 
          มีสิ่งหนึ่ง  ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการดำเนินชีวิตของบุคคล อันมีผลโดยตรงต่อการกำหนดสภาพความเป็นไปของชีวิตมนุษย์  แม้ว่าจะปรากฏโดยอ้อมก็ตามที  สิ่งนั้นคือ  ค่านิยม
          ค่านิยม หมายถึง  สิ่งที่บุคคล และ/หรือสังคม ยึดถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่า ยึดถือว่าเป็นความถูกต้องในการเลือกเป็นบรรทัดฐานเพื่อใช้ตัดสินใจกระทำการต่างๆ   ซึ่งครั้งนี้ พ่อจะกล่าวถึง ค่านิยมที่สร้างปัญหาต่อการดำเนินชีวิต  โดยยกตัวอย่างมาบางส่วนเท่านั้น
          คำว่า ค่านิยม จะมีระดับ กล่าวโดยย่อได้แก่ ค่านิยมระดับบุคคล และค่านิยมระดับสังคม  โดยที่ค่านิยมระดับบุคคล มักคล้อยตามค่านิยมระดับสังคมเป็นส่วนใหญ่  ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เป็นที่มาของค่านิยมที่สร้างปัญหาต่อการดำเนินชีวิต ค่านิยมระดับสังคมจะกดดัน-ชักจูงให้บุคคลในสังคมปฏิบัติให้คล้อยตาม พ่อจึงต้องการให้คำแนะนำแก่ลูก  เพื่อที่ลูกจะได้รู้เท่าทัน  ไม่ตกลงไปและไหลตามกระแสแห่งค่านิยมเหล่านั้น  ค่านิยมที่พ่อเห็นว่าสมควรนำมากล่าวถึงเพื่อเป็นตัวอย่าง ได้แก่  ความต้องการมีของใช้ที่ทันสมัย  การเสริมความงาม  ความต้องการทานอาหารเลิศหรู 
          ๑. ความต้องการมีของใช้ที่ทันสมัย  เรียกอีกอย่างว่าเป็น “บริโภคนิยม / นิยมวัตถุ“ (คนละอย่างกับปรัชญาวัตถุนิยม)  ของใช้ทันสมัยเหล่านั้นส่วนมากมักมีราคาสูง  ไม่มีความจำเป็นต้องมี-ต้องใช้ถึงขนาดนั้น  ค่านิยมนี้จะสอดแทรกอยู่กับสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆเช่น  เครื่องแต่งกาย  เครื่องประดับ  โทรศัพท์มือถือ  คอมพิวเตอร์   เป็นต้น  คนส่วนใหญ่อยากมีของที่ทันสมัย-มีราคาแพงไว้เพื่อรู้สึกมีความสุขที่ได้ครอบครอง แต่ที่คนแสวงหาเพื่อการได้ครอบครองสินค้าที่ทันสมัยอยู่เสมอนั้นไม่ใช่เพื่อใช้  แต่มีไว้เพื่ออวดคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องไร้สาระ
          ผลกระทบของค่านิยมนี้ที่มีต่อนิสัยใจคอของคนคือ สำหรับคนที่หลงตัวเองเมื่อได้ครอบครองสินค้าทันสมัยก็จะหลงตัวเอง-ดูหมิ่นเหยียดหยามคนที่ไม่มี  สำหรับคนที่อยากมีแต่ไม่สามารถจะมีได้ก็จะเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ  สำหรับคนที่เห็นคนอื่นดีกว่าตนไม่ได้ก็จะเกิดความอิจฉาริษยา เป็นต้น       
          หากเรามีเงินเหลือใช้ในวันนี้ ก็ควรเก็บหอมรอมริบเอาไว้ เผื่ออนาคตข้างหน้าเกิดมีความจำเป็นต้องใช้เงินขึ้นมาจะได้ไม่ต้องลำบากไปหยิบยืมจากผู้อื่น อย่าได้ใช้จ่ายไปกับสิ่งไม่จำเป็นต้องมีต้องใช้เลย

          มีข่าวปรากฏอยู่เรื่อยๆว่า  วัยรุ่นที่ฐานะยากจน  ไม่มีเงินซื้อแต่อยากมีสินค้าทันสมัยราคาแพง  หาวิธีต่างๆนานาเพื่อให้ได้เงินไปซื้อสินค้าเหล่านั้น  บางคนตั้งหน้าตั้งตาทำงานนอกเวลาที่สุจริตก็ดีไป  แต่บางคนขายอวัยวะของตัวเอง  บางคนขายบริการทางเพศ  บางคนขายยาเสพติด  บางคนเล่นการพนัน  บางคนลักขโมยปล้น-ฆ่า เป็นต้น  ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำที่ทุจริต ผิดจริยธรรรมและกฎหมาย  อันส่งผลร้ายมาสู่ชีวิตตนเองและครอบครัว

          จริงอยู่ว่าการซื้อของใช้ก็ควรคำนึงถึงความมีคุณภาพของสินค้าเป็นสำคัญ  สินค้าที่เป็นของแบรนด์ดังมักมีคุณภาพดี    แต่สินค้าทั่วไปที่มีแบรนด์ดังก็มักมีราคาที่แพงเกินไป  เป็นราคาที่แพงเพราะค่านิยม  หาได้มีคุณภาพและประโยชน์สูงตามมูลค่าของราคาด้วยไม่  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  สินค้าเหล่านั้นมักผลิตรุ่นใหม่ๆออกมาเพื่อหาเงินจากผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ  โดยอ้างค่านิยมคือ “ความทันสมัย 
          เราซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ ก็เพื่อที่ว่าจะใช้ได้นาน  ได้รับความสุขสบายในการใช้งาน  มั่นใจได้ว่าสินค้านั้นจะไม่สร้างปัญหาให้เราในภายหลัง  แต่การที่ซื้อสินค้าคาแพงแล้วใช้ไม่นานก็ซื้อใหม่เพื่อจะได้ “ทันสมัย  ทั้งที่สินค้าที่มีอยู่ยังมีสภาพดี  ย่อมเป็นการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น  การใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นก็คือการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย-สุรุ่ยสุร่าย เป็นการใช้เงินอย่างไม่คุ้มค่า
          กรณีของเครื่องแต่งกาย  ความสำคัญคือเพื่อปกปิดร่างกายให้ดูเรียบร้อย-สวยงาม  บดบังแดดร้อนและกันลมหนาว ใส่แล้วสามารถอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้แก่เราในการทำกิจกรรมที่ต้องการ ฯลฯ  สิ่งสำคัญอันควรคำนึงถึง  คือความเหมาะสมแก่กาลเทศะ  ถูกต้องตามแก่สถานภาพและบทบาท   ไม่ใช่เรื่องความทันสมัย-ราคาแพง   วัยเรียนไม่ควรให้ความสนใจเรื่องแต่งตัวตามแฟชั่น  เพราะเป็นกิจกรรมที่สิ้นเปลือง  มีรายจ่ายมาก-เสียเวลามาก-ต้องใช้ความคิด-ความใส่ใจมาก  โดยที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆแก่วัยนี้เลย  การมีเสื้อผ้าที่สวยงาม-มีสภาพดี-มีแบบที่เหมาะสม สร้างบุคลิกภาพที่ดีให้กับตน ไม่กี่ชุดก็เพียง                 กรณีของ โทรศัพท์มือถือ  เป็นที่รู้กันในหมู่ผู้ขายว่า  เมื่อรวมสินค้าทุกแบรนด์ทุกรุ่นแล้ว  จะมีโทรศัพท์มือถือแบบใหม่ออกมาทุกวัน  ทั้งนี้ก็เพื่อหาเงินจากผู้บริโภคนั่นเอง  แบรนด์ดังๆ ก็จะออกสินค้าแบบใหม่ๆในแต่ละรุ่นจะออกมาใหม่อย่างน้อยปีละ ๑ ครั้ง  โดยมีการสร้างกระแสค่านิยมแห่งความทันสมัยไว้มอมเมาและเรียกเงินจากกระเป๋าของคนซื้อ 
         ในยามที่เรายังอยู่ในวัยเรียน  โทรศัพท์มือถือหาใช่สิ่งที่จำเป็นต้องมีไม่  โทรศัพท์มือถือไม่ใช่อุปกรณ์การเรียนที่วัยเรียนต้องมี  บ่อยครั้งยังเป็นอุปกรณ์ที่ขัดขวางการเรียนเสียด้วยซ้ำไป  เพราะสามารถตรวจสอบได้จากการใช้งานได้เสมอว่า  ส่วนใหญ่ใช้ไปเพื่อพูดคุยกับเพื่อน-กับคนที่อยากติดต่อด้วยเรื่องที่ไร้สาระ  เป็นการเสียเงิน-เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์  ทั้งๆที่เด็กวัยเรียนมากต่อมากมักโอดครวญเสมอว่า ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ-ทำการบ้าน-ทำงานที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์  แต่กลับมีเวลาพูดคุยโทรศัพท์ในเรื่องไร้สาระอยู่เสมอ

          แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้ในการติดต่อสื่อสารเพื่อทำธุระนอกบ้าน ก็ควรมีไว้  แต่ก็ไม่ควรเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือที่มีระบบ-เครื่องเล่นที่ไม่จำเป็น และ/หรือไร้สาระ  ซึ่งมักจะมีราคาแพงและมีอายุการใช้งานที่สั้น  ชำรุดเสียหายง่าย-ค่าซ่อมแพง หรือซ่อมไม่ได้เลย

          กรณีของเครื่องคอมพิวเตอร์ มีการสนับสนุนให้เกิดการใช้จากผู้มีผลประโยชนในธุรกิจสินค้าประเภทนี้  สำหรับคนที่มีฐานะดีจะไม่มีปัญหาเรื่องเงินซื้อ แต่กับผู้มีรายได้น้อย ค่านิยมนี้ได้สร้างปัญหาให้เป็นอย่างมาก เพราะสินค้าประเภทนี้มีราคาสูง  โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา จะมีอายุการใช้งานสั้น-ไม่ทนทาน-เกิดความเสียหายได้ง่าย-ค่าซ่อมแพง  ถ้าต้องจ่ายค่าบริการอินเตอร์เน็ตด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นไปอีก วัยเรียนที่ไม่มีอุปกรณ์ประเภทนี้ อาจได้รับความสะดวกน้อยไปบ้าง  แต่ก็ไม่มีความจำเป็นขนาดว่าจะไม่มีไม่ได้  เพราะไม่ใช่อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการเรียนทุกวิชาทุกบทเรียน  ไม่ใช่ว่าต้องใช้ทุกวันตลอดเวลาเรียน  แต่จะต้องใช้บ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น  อีกทั้งยังสามารถใช้ของสถานศึกษาหรือใช้บริการผ่านร้านของเอกชนได้
          เครื่องคอมพิวเตอร์มีประโยชน์ในการเรียนก็จริง  แต่การใช้อุปกรณ์ประเภทนี้อย่างผิดวิธี–ผิดวัตถุประสงค์  กลับสร้างโทษภัยอันตราย-ความสูญเสียให้แก่วัยเรียนและแม้แต่วันผู้ใหญ่ได้อย่างมากมายมหาศาล  ดังที่ได้ปรากฏเป็นข่าวให้เห็นทั่วไป

          กรณีของเครื่องประดับ  อันเป็นการใช้เพื่อการตกแต่งประดับประดาร่างกายให้สวยงาม  นอกเหนือไปจากสิ่งที่ธรรมชาติได้มอบให้มา  ที่จริงแล้วเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำในวัยเรียนเลย  กล่าวโดยสัจธรรมแล้ว การไร้เครื่องประดับไม่ได้ทำให้ร่างกายสวยงามน้อยลง การมีเครื่องประดับร่างกายไม่ได้ทำให้ร่างกายสวยงามมากขึ้นแต่อย่างใด  เครื่องประดับที่สวยงามก็ยังคงความสวยงามไว้  ไม่ได้แบ่งปันความสวยงามใดๆแก่ร่างกายใคร  การมองเห็นร่างกายที่ถูกประดับประดาว่าสวยงาม  เป็นการถูกหลอกต่อสายตาของคนที่มีสติปัญญาธรรมดาสามัญเท่านั้น เพราะผู้มีปัญญาย่อมมองผ่านเครื่องประดับ เพื่อจะได้เห็นความงามที่มีอย่างแท้จริง
          แท้ที่จริงแล้ว  ความสวยงามที่มองเห็นได้ด้วยสายตา  จะปรากฏให้เห็นในผู้ที่มีรูปร่างที่ได้สัดส่วน  ไม่ผอมไม่อ้วนเกินไป  รูปร่างที่ได้สัดส่วนทำให้ใครก็มองเห็นความสวยงามได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องประดับ  ส่วนคนที่มีรูปร่างผอมเกินไปหรืออ้วนเกินไป  ต่อให้ประดับประดาด้วยเครื่องประดับเลิศหรูเพียงใด  ก็หาทำให้คนอื่นมองเห็นความสวยงามของเรือนร่างแห่งตนไม่  รูปร่างที่สวยงามไม่ได้มีได้ด้วยการใช้เครื่องประดับ  แต่มีได้ด้วยการรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ-การออกกำลังกายอย่างพอดีและสม่ำเสมอ  วัยเรียนเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อในการสร้างโครงสร้างรูปร่างที่สวยงามและสุขภาพที่แข็งแรง  ซึ่งจะมีผลสืบเนื่องยาวนานไปตลอดชีวิต ลูกจึงควรให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะและหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ
          แต่ว่าในบรรดาเครื่องประดับทั้งหลายในจักรวาล  ไม่มีเครื่องประดับใดที่ประเสริฐเลิศล้ำเท่ากับ    "คุณงามความดีคุณงามความดีเป็นเครื่องประดับที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เพียงแต่คนสวยงามขึ้นได้  เป็นเครื่องประดับที่ทำให้โลกน่าอยู่  เป็นเครื่องประดับที่ทำให้สสารและสิ่งมีชีวิตมีคุณค่า  เป็นเครื่องประดับที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ร่วมกันได้อย่างเกื้อกูล  เป็นเครื่องประดับที่ทำให้คนที่ไม่รู้จักกันเกิดความรักใคร่เลื่อมใสศรัทธากัน  เป็นเครื่องประดับที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยทุกสถานะอาชีพ-เป็นที่ปรารถนาของกันและกัน-แม้พรากจากกันก็ยังอาลัยใคร่คิดถึง   เป็นเครื่องประดับที่ทำให้ชีวิตเจริญก้าวหน้า  เป็นเครื่องประดับที่ให้คุณประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น   เป็นเครื่องประดับที่ใครๆก็ไม่อาจลักขโมยไปได้นอกเสียจากว่าเราจะละทิ้งไปเอง  เป็นเครื่องประดับที่ไม่ต้องซื้อหาหรือมอบให้แก่กันได้ แต่ต้องสร้างต้องทำด้วยตนเอง  และต้องรักษาไว้ด้วยจิตใจที่ดีงามเท่านั้น 
          คนที่มีฐานะร่ำรวย-มีเครื่องประดับราคาแพง  แต่ถ้ามีความประพฤติชั่วช้าเลวทรามย่อมเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของผู้อื่น

          ๒.การเสริมความงาม  ไม่มีความจำเป็น-ความถูกต้องชอบธรรมใดๆ ที่วัยเรียนจะต้องเสริมสวย-เสริมความงาม   เพราะการกระทำเช่นนั้นก็เพื่อให้คนอื่นมองเห็นเราว่ามีความสวยงาม  ดึงดูดเพศตรงข้าม  เป็นการทำให้เราภาคภูมิใจในความสวยงามของตัวเอง  แต่ทว่าวัยนี้เป็นช่วงชีวิตที่สำคัญที่สุดที่จะสร้างเสริมพื้นฐานชีวิตที่เจริญก้าวหน้า-มั่นคงและแข็งแรง มีสติปัญญามีความรู้-ทักษะ-ความสามารถ ปลูกฝังความคิดนิสัยใจคอที่ดีมีคุณธรรม  ไม่ควรมามัวเสียเงิน-เสียเวลาไปกับการทำเรื่องไร้สาระอันเปล่าประโยชน์ใดๆ   นับว่าเป็นการกระทำที่โง่เขลาของคนไม่มีความคิด
          คนที่ผ่านโลกมานานและมีความคิดต่างยอมรับว่า  ความเยาว์วัย  นั่นแหละคืออุปกรณ์เสริมความสวยงามให้แก่รูปกายได้อย่างแท้จริง  ซึ่งธรรมชาติได้จัดสรรมาให้ทุกคนอย่างถ้วนหน้าและเท่าเทียมกัน  และในขณะเดียวกัน  เวลา ก็พรากความเยาว์วัยไปจากทุกคนอย่างถ้วนหน้าและเท่าเทียมกัน  ในความเร็วที่เท่ากัน 
          ในบรรดาสินค้าเสริมความงามทั้งหลาย ที่ดึงดูดใจที่สุดจึงเป็นสินค้าที่รักษา-คงสภาพความเยาว์วัยเอาไว้  แต่นั่นก็เป็นเพียงสินค้าที่สร้างได้เพียงมายาภาพเท่านั้น  หาได้สามารถรักษา-คงความเยาว์วัยที่แท้จริงเอาไว้ได้แต่อย่างใดไม่  เพราะไม่มีใครหรือสิ่งใดที่สามารถหยุดเวลาได้  จึงไม่มีใครสามารถเอาชนะความเสื่อมสิ้นไปแห่งสังขารได้  ไม่ว่าอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต

          แต่ในบรรดาสิ่งเสริมความงามทั้งหลายในโลก  นักปราชญ์ต่างยกย่อง "ปัญญา" ว่าเป็นสุดยอดแห่งสิ่งเสริมความงามที่ดีที่สุด  คนเราจะมีเสริมความงามชนิดนี้ได้ต้องขยันศึกษาหาความรู้-พัฒนาความคิด-อบรมจิตใจ คนที่เฉลียวฉลาด-มีความรู้-มีสติปัญญาอย่าว่าแต่นักปราชญ์เลย แม้แต่คนธรรมดาที่พบเห็นต่างก็ต้องประทับใจในความงามแห่งปัญญาของบุคคลผู้นั้น

          ๓.  ความต้องการรับประทานอาหารที่เลิศหรู  อาหารที่เลิศหรูมักมีการปรุงแต่งที่ประณีต-มาจากต่างประเทศ-มีราคาแพง  ถ้าเป็นผัก-ผลไม้ก็ต้องออกนอกฤดูอันเป็นกระบวนการทางเคมีที่ผิดธรรมชาติ  อาหารเลิศหรูที่นิยมแพร่หลายมักเป็นอาหารที่ถูกเรียกว่า“อาหารขยะ  อาหารประเภทนี้มีคุณค่าทางอาหารที่ขาดแคลน ไม่ครบหมู่  มีสารอาหารไม่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ  มิหนำซ้ำยังมีราคาแพง  เพราะมีการตกแต่งให้ดูสวยงาม-มีรสชาติอร่อย-จำหน่ายในห้างร้านที่หรูหราทันสมัย  การรับประทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำจะเป็นโทษแก่ร่างกาย-นำมาซึ่งปัญหาภาวะทุพโภชนา อันทำให้สุขภาพร่างกายเสื่อมโทรม-เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาภายหลัง  ผัก-ผลไม้ที่ออกนอกฤดูมักผ่านกระบวนการใช้สารเคมีที่มีอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย  แต่ที่มีการทำให้เป็นเช่นนั้น เพราะผัก-ผลไม้นอกฤดูมักมีราคาแพง  สร้างผลกำไรให้แก่เกษตรกรผู้ผลิต-ผู้จำหน่ายได้มาก
          อาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายไม่ต้องเลิศหรูหรือมีราคาแพง  ของเพียงแค่มีสารอาหารที่ครบ ๕ หมู่  มีความสะอาด-ถูกสุขอนามัย  ซึ่งมีหลากหลายให้เลือกหาตามฤดูกาล  ลูกควรอุดหนุนผลผลิตในท้องถิ่นจะดีกว่า
          กล่าวโดยสรุป ค่านิยม “บริโภคนิยม/นิยมวัตถุ เป็นสิ่งที่สนองความมั่งคั่งให้แก่นักธุรกิจ   เป็นสิ่งที่สนองกิเลสตัณหาของคนมีเงินที่มัวเมาในวัตถุ  แต่ขณะเดียวกัน  กลับเป็นสิ่งที่สร้างความยากลำบากให้แก่ผู้บริโภคโดยเฉพาะคนที่มีทุนทรัพย์น้อย  เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของคนในโลกตั้งแต่ยุคอุตสาหกรรมเป็นต้นมา  ก่อให้เกิดความแตกต่างของความเป็นอยู่ในหมู่คน  ก่อให้เกิดช่องว่างระหว่างสถานะทางการเงินของคนมั่งมีกับคนยากจนที่กว้างขึ้น-ห่างไกลกันมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญ  ค่านิยมนี้ทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างฟุ่มเฟือยไม่บันยะบันยัง ทำให้สิ่งแวดล้อมถูกทำลาย-เกิดมลพิษทั้งในน้ำ-อาหาร-อากาศ แล้วยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนที่สร้างปัญหาใหญ่แก่สรรพชีวิตบนโลก
          โดยแท้ที่จริงแล้ว  การดำเนินชีวิตที่มีความอยากมีอยากเป็นน้อย มีความกระเสือกกระสนดิ้นรนน้อย มีความเป็นอยู่อย่างสมถะ ไม่ใช้จ่ายเกินตัว-เกินความจำเป็น  ไม่แสวงหาสิ่งที่ยากเกินความสามารถของตน  จะเป็นชีวิตที่มีความเดือดเนื้อร้อนใจน้อย ไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่รู้สึกว่าเหนือกว่าใคร-ด้อยกว่าใคร  และกลับจะเป็นชีวิตที่มีความสงบสุข สบายอกสบายใจมากยิ่งกว่า
          ซึ่งสภาพเช่นนั้นไม่เกินความสามารถที่คนทั่วไปจะทำให้มีแก่ชีวิตของตนได้  ไม่ใช่สิ่งที่ยากลำบากที่จะทำให้เป็นไปได้ในสังคม  ขึ้นอยู่กับว่าคนเราจะมีสติปัญญาเพียงพอหรือไม่  มีความโง่เขลาเมามัวมากน้อยเพียงใด  มีความเข้าใจในสัจธรรมและมีความมุ่งมั่นที่จะไม่ใจอ่อนคล้อยตามกระแสนิยมแห่งความฟุ้งเฟ้อได้มากน้อยเพียงใด
           พ่อหวังว่า  ลูกจะอ่านด้วยความตั้งใจ  และนำไปพินิจพิจารณาด้วยสติปัญญา  มองดูโลกแห่งความจริงผ่านการปลดเปลื้องเปลือกตมแห่งมายาการที่คนโง่เขลาเมามัวได้สร้างขึ้นและหลงคล้อยตาม  โดยที่ลูกสามารถนำคำแนะนำของพ่อไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสิ่งอื่นๆที่พ่อไม่ได้กล่าวถึงได้  เพื่อที่ชีวิตของลูกจะได้ไม่มีปัญหาเพราะค่านิยมผิดๆเหล่านี้
          แล้วพ่อจะหาโอกาส แนะนำถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อลูกในการดำเนินชีวิตในครั้งต่อๆไป โดยที่ลูกไม่ต้องไปเสียเวลา-เสียความรู้สึก-เสียอกเสียใจในการลองผิดลองถูกเอาเอง


 เงินและเวลา มีค่า ต่างกันที่
เงินใช้แล้วหาใหม่ได้
แต่เวลาใช้แล้ว หามาทดแทนไม่ได้

 เงินและเวลา มีค่า เหมือนกันที่
คนฉลาดใช้แล้ว ชีวิตเจริญก้าวหน้า
ส่วนคนโง่ใช้แล้ว ชีวิตตกต่ำเสื่อมทรามลง 
                                                                     ด้วยรัก
                                                                    จาก พ่อ

๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น