ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กาพย์ยานี ๑๑ : นาร้างควาย

                       
                                               

กาพย์ยานี ๑๑ : นาร้างควาย

      เมฆครึ้ม สะลึมสลัว                ฟ้ามืดมัว ทั่วทิศา
สูญสาป ลับสุริยา                         หลายวันล่วง ห่วงอาลัย

      ข้าวหว่าน ทะยานยอด             ปลายเรียวสอด ทอดไสว
ระบำ ตามลมไล้                          ที่พัดพลิ้ว ละลิ่วรมย์

      ฝนโปรย โรยฝอยปราย             รินเอียงอาย  ไม่ถากถม
ฉวัดเฉวียน แรงเวียนลม                  บันเทิงเล่น เป็นวัยเยาว์

      สุดนา หาเห็นควาย                  ถูกจับขาย ยุคใหม่เขา
จ้าง(รถ)ไถ ควายหมดเล้า               เหลือนกเอี้ยง เรียงอ้างว้าง

      ส่งเสริม การศึกษา                   หนุ่มสาวละ ทิ้งนาร้าง
แต่งงาม ตามสำอาง                       ไม่แดดดำ ย่ำดินโคลน

      เรียนเล่า เข้าห้องแอร์               ไม่เหลียวแล "คันแท-โพน"(คันแท ภาษาอีสาน =คันนา)
ขายนา หารถโผน                           เป็นลูกจ้าง/ ว่าง-ตกงาน

      เก็บเกี่ยว เที่ยวจ้างเขา-              คนต่างด้าว , เราเกียจคร้าน
ไร่นา เกษตรการ                             แสนต่ำต้อย ด้อยสายตา

      อย่างไร นาไม่ร้าง                     คนล้นหลั่ง ต่างเสาะหา
อยู่-กิน เลี้ยงวิญญาณ์                      ชีวาตัว ครอบครัวเอย ฯ

๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น