กาพย์ยานี ๑๑ : นาร้างควาย
เมฆครึ้ม สะลึมสลัว ฟ้ามืดมัว ทั่วทิศา
สูญสาป ลับสุริยา หลายวันล่วง ห่วงอาลัย
ข้าวหว่าน ทะยานยอด ปลายเรียวสอด ทอดไสว
ระบำ ตามลมไล้ ที่พัดพลิ้ว ละลิ่วรมย์
ฝนโปรย โรยฝอยปราย รินเอียงอาย ไม่ถากถม
ฉวัดเฉวียน แรงเวียนลม บันเทิงเล่น เป็นวัยเยาว์
สุดนา หาเห็นควาย ถูกจับขาย ยุคใหม่เขา
จ้าง(รถ)ไถ ควายหมดเล้า เหลือนกเอี้ยง เรียงอ้างว้าง
ส่งเสริม การศึกษา หนุ่มสาวละ ทิ้งนาร้าง
แต่งงาม ตามสำอาง ไม่แดดดำ ย่ำดินโคลน
เรียนเล่า เข้าห้องแอร์ ไม่เหลียวแล "คันแท-โพน"(คันแท ภาษาอีสาน =คันนา)
ขายนา หารถโผน เป็นลูกจ้าง/ ว่าง-ตกงาน
เก็บเกี่ยว เที่ยวจ้างเขา- คนต่างด้าว , เราเกียจคร้าน
ไร่นา เกษตรการ แสนต่ำต้อย ด้อยสายตา
อย่างไร นาไม่ร้าง คนล้นหลั่ง ต่างเสาะหา
อยู่-กิน เลี้ยงวิญญาณ์ ชีวาตัว ครอบครัวเอย ฯ
๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น