ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560

การพึ่งพา ธรรมชาติและมนุษย์ : กลอนเปล่า



การพึ่งพา ธรรมชาติและมนุษย์ : กลอนเปล่า

๏   มนุษย์มักชอบพูดว่า
ธรรมชาติและมนุษย์
ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
ข้อเท็จจริงเป็นเช่นนั้นหรือ?

๏   มนุษย์ต้องพึ่งพา
ทรัพยากรจากโลกตั้งแต่เกิด
ใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติไปจวบจนวันตาย
มนุษย์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติทุกอย่าง
จากทุกพื้นที่บนโลก ใต้โลกและในน้ำ
เพื่อประโยชน์สุขของตัวเอง

๏   การมีอยู่ของสัตว์ชนิดอื่น
สร้างสมดลแก่ระบบนิเวศน์บนโลกใบนี้
แต่การมีอยู่ของมนุษย์
ทำลายสมดุลของระบบนิเวศน์ทั้งหมด
อย่างไม่มีวันหวนกลับ

๏   มนุษย์ทำให้สัตว์นับไมถ้วนสูญพันธุ์
ทำให้สัตว์บางชนิดแพร่พันธุ์มากมาย
เพื่อเป็นอาหารของมนุษย์
ดูๆไป
มนุษย์ได้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม
ที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก
จะเป็นรองก็แค่ หนูและค้างคาว

๏   ธรรมชาติไม่ต้องพึ่งพามนุษย์แม้แต่น้อย
ซ้ำยังถูกมนุษย์คอยทำลายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
หากจะมีมนุษย์คนใด
แสดงความพยายามอนุรักษ์ธรรมชาติ
ก็เพราะเล็งเห็นประโยชน์ของมวลมนุษย์เอง
ไม่ใช่เพื่อธรรมชาติอย่างแท้จริง

๏   ลดการกิน-ลดการใช้
เป็นวิธีลดการทำร้ายโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การรีไซเคิ่ลของใช้แล้ว
เป็นพฤติกรรมที่ควรทำให้จริงจังมากขึ้น
การกำจัดขยะอย่างถูกวิธี
มีกระบวนการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงอยู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
การไม่ทิ้งสารพิษลงสู่พื้นดิน
ควรทำให้เคยชิน-เป็นปกติวิสัย

๏   ฉันคิดมาตลอดว่า
ฉันจะดำเนินชีวิตโดยทำร้ายโลกให้น้อยที่สุดได้ยังไง?
เพราะแม้แต่การกิน-นั่ง-นอนฯลฯ
มนุษย์ล้วนต้องใช้ทรัพยากรจากโลก
ซึ่งเท่ากับทำร้ายโลกไปด้วยทุกขณะ

๏   ฉันเคยทบทวน+ถามตัวเองว่า 
ฉันพยายามทำประโยชน์ให้กับสังคมอย่างสม่ำเสมอมากมายหลายสิบปี
แต่กับโลก
ฉันทำประโยชน์อะไรให้กับโลกบ้าง?
คำตอบคือ ฉันแค่บอกคนอื่นๆว่า ช่วยลดการทำร้ายโลกลงบ้าง
ฉันทำประโยชน์ให้โลกได้แค่นั้นจริงๆ
 
๏   ฉันไม่กล้าพูดว่า
การทำร้ายโลกให้น้อยที่สุด
เป็นการทำประโยชน์ให้กับโลก
เพราะนั่นเป็นประโยชน์กับมนุษย์โดยตรง

๏   การมีอยู่ของพืช-สัตว์ทุกชนิด
ล้วนมีประโยชน์ต่อโลกใบนี้
แต่การมีอยู่ของมนุษย์
มีประโยชน์ต่อโลกตรงไหน?
ฉันไม่เห็นเลยจริงๆ
 
๏   ลองคิดดู
ขนาดตายไปแล้ว
มนุษย์เรายังไม่ยอมบริจาคให้ร่างกายตัวเอง
เป็นปุ๋ยให้กับดินเลย

๏   แม้ในพิธีศพของมนุษย์
ซึ่งเป็นโอกาสสุดท้าย
มนุษย์ก็ยังต้องใช้ทรัพยากรจากโลก
ทำร้ายธรรมชาติไปอีกมากมาย
เพื่อจัดการกับซากชีวิตของตัวเองฯ

มิถุนายน ๒๕๖๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น