ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ชีวิต-ความคิด : กลอนคติชีวิต



ชีวิต-ความคิด : กลอนคติชีวิต

๏    ฝนโรย โปรยปราย......................ภายใต้ นภา เมฆาปิด
แทบมืด สนิท................................ผิดกับ ธรรมชาติ ยามเช้า
ความชื้น สะสม..............................ผสม สายลม แผ่วเบา
ทำให้ ใจ(คน)เรา...........................บรรเทา เร่าร้อน ฤดี?

๏    ชาวนา สะใจ..............................อยากให้ น้ำฝน ดล(ต้น)ข้าว
เติบใหญ่ ยืดยาว............................(แต่พอ)ถึงคราว ฝนหนัก ชักถี่
น้ำเริ่ม ท่วมนา...............................น้ำตา เริ่มมา แทนที่
สิ้นความ สุขี.................................มีแต่ ระกำ กล้ำกลืน

๏    การมี ชีวิต.................................ต้องคิด รอบคอบ รอบด้าน
หลักวิ ชาการ................................และประ สบการณ์ ดาลดื่น
เฉพาะ สาระ.................................อย่าสะเปะ สะปะ ระรื่น
ฟุ้งซ่าน สิคืน................................โศกเศร้า สะอื้น เสียใจ

๏    หลากเรื่อง หลายราว...................ควรก้าว ข้ามไป ไม่คิด
ปราศประโยชน์ สักนิด.....................(ขืน)มัวแต่ ยึดติด จิตไฉน
จักผูก เป็นปม................................จักบ่ม เป็นพิษ ชีวิตภัย
บางเรื่อง คิดไป..............................ก็ไร้ คุณค่า น่ารำคาญ

๏    การมี ชีวิต.................................ต้องมี ความคิด เคียงคู่
เลือกเฟ้น เป็นอยู่...........................เป็นผู้ รู้(จัก)คิด พิษฐาน
การมี ชีวิต....................................แต่ไม่ รู้(จัก)คิด=วิกฤติการณ์
จักดล บันดาล...............................ชั่วช้า สามานย์ บรรลัยฯ

๑ มิถุนายน ๒๕๖๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น