ความรู้คู่ชีวิต : กลอนเปล่า
๏
การแสวงหาความรู้
โดยดูผ่านการกรองของค่านิยม
ย่อมไม่ได้รับความรู้ที่แท้จริง
โดยดูผ่านการกรองของค่านิยม
ย่อมไม่ได้รับความรู้ที่แท้จริง
๏ คนมองหาสิ่งที่อยากเห็น
มักมองไม่เห็นสิ่งที่ไม่ตั้งใจจะเห็น
แม้อยู่แค่ปลายจมูก
๏ การตัดสิน
ที่ตั้งอยู่บนตราชั่งแห่งความลำเอียง
ไม่สามารถหลีกเลี่ยง
ที่จะทำลายความผิด-ถูก
ที่แท้จริง
๏ คนโง่มักพึงพอใจในคำชมว่าตนเป็นคนฉลาด
แต่นักปราชญ์มักคลางแคลงใจในคำชมเช่นนั้น
ว่าอาจเป็นเพียงการประชดประชัน
ของผู้ที่คิดริษยา
๏ คนไม่ประมาท
จะระมัดระวังการเอ่ยวาจา
เพราะไม่อยากถูกใครครหา
ว่าโง่แล้วลืมตัว
๏ คนโลภมาก บูชาเงิน
คนเขลาบูชา
ยศศักดิ์สรรเสริญ
ส่วนคนมีปัญญาจะเพลิดเพลิน
กับการเสพความรู้ที่มีอยู่มากมาย
๏ การรู้จักนำความรู้ไปใช้
ทำให้ชีวีพ้นทุกข์-มีความสุขสบาย
คือหัวใจของการมีความรู้ที่แท้จริง
คนสะสมความรู้
เพื่ออวดรู้และเย่อหยิ่ง
หาใช่คนที่รู้จริง
เพราะความรู้นั้นเป็นแค่สิ่งไร้สาระ
๏ คำแนะนำของคนมากมาย
หาใช่ความรู้
แต่เป็นแค่ความคิด
เพราะไม่เคยและไม่อาจนำไปใช้ในชีวิต
ให้เกิดสัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผล
คำแนะนำเหล่านั้นมักมาจากคน
ที่ดีแต่พร่ำบ่น
ในขณะที่ตนกลับทำสิ่งตรงกันข้าม
คำพูดที่สวยงาม
แต่ขาดความจริงใจ
ต่างอะไรกับการหลอกลวง?
๏ คนไม่มีความรู้ย่อมโง่เขลา
มักมัวเมาและขาดเหตุผล
อาศัยสัญชาตญาณและการเห็นแก่ตน
กระเสือกกระสน
ดิ้นรนอยู่บนโลกา
๏ การอยากรู้และแสวงหาความจริง
จะนำชีวีไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
จงตรวจสอบคำสอน-คำแนะนำ
เลือกเอาเฉพาะที่มีคุณค่า
ความรู้ในความจริง ไม่ได้สิงอยู่ในศรัทธา
ความรู้ในความจริง ไม่ได้สิงอยู่ในศรัทธา
หากแต่คือความกล้าพิสูจน์
อันเป็นคุณสมบัติเฉพาะของปัญญาชนฯ
อันเป็นคุณสมบัติเฉพาะของปัญญาชนฯ
๑๒ มีนาคม ๒๕๖๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น