ปิดทองหลังพระ : กลอนสำนวนสุภาษิต(กลอนเจ็ด)
๏ อาทิตย์ ขึ้น-ลง
คงนิรันดร์....................คืนวัน ครรลอง ครองสักขี
ก่อนโลก กำเนิด
เกิดชีวี...........................ก่อนมี มนุษย์ สุดวิไล
๏ อรุณ-อัศดง
ดำรงสัจ............................สุทัศน์ ภัสสรา อดิศัย(ภัสสรา=ภัสสร=แสงสว่าง)
คงคู่ เวลา
ตลอดไป.................................แม้ใคร ไม่ข้อง ต้องลำเค็ญ
๏ กุศล กริยา
ก่อประสิทธิ์.........................(แม้)ไม่คิด มิใคร่ ให้ใครเห็น
ผลแห่ง ความดี
ย่อมมีเป็น.........................ไม่เร้น ไร้ลับ เหลืออัประมาณ
๏ กระทำ กรรมดี
(เมื่อ)มีโอกาส.................อย่าขาด ศรัทธา พิษฐาน
กฎแห่ง กรรมา
เป็นประธาน........................หาใช่ สามานย์ สันดานคน
๏ ทำดี มิใย
ใครต้องชม............................คารม คมคาย แค่ปลายผล
สำคัญ
ยิ่งใหญ่ คือใจตน............................บรรลุ กุศล ถกลกรรม(ถกล=งาม)
๏ ความดี มีรส
แสนสดชื่น.........................รมย์รื่น ฤดี ชีวีถัมภ์(ถัมภ์=หลัก,เสา)
ผู้ใด บำเพ็ญ
เป็นประจำ.............................โน้มนำ โสมนัส สวัสดี
๏ ถึงใคร ไม่รู้
แค่เรารู้...............................ประเสริฐ เลิศสู่ อุระศรี
ไม่ต้อง ประกาศ
อวดมาดมี.........................ผลดี ย่อมได้ มิไกลเกิน
๏ ภาษิต ปิดทอง ที่หลังพระ......................ขจัด
โมหะ หลง(คำ)สรรเสริญ
ทำดี เถิดหนา
อย่ามัวเพลิน.........................คำเยิน คำยอ ฉอเลาะเลยฯ
๑๘ ตุลาคม ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น