ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เวรกรรมตามสนอง : กลอนหก



เวรกรรมตามสนอง : กลอนหก


    คนตัดไม้ ทำลายป่า......................คิดไหมว่า อนาคต
เมื่อป่าหาย ต้นไม้หมด.......................จะปรากฏ ทุพภิกขภัย ?

    เพราะคิดแต่ เห็นแก่ตน..................จึงบ่สน โค่นป่าไร้
ถึงหน้าฝน ฝนหาไม่...........................มาก็(บ่า)ไหล ท่วมไร่นา

    คนก่อกรรม กระทำเข็ญ...................คิดว่าเป็น กำไรหา
เอาเปรียบเขา คือเสาวภา.....................ภูมิปัญญา ร่าเริงรมย์

    ไม่ศรัทธา สังสารวัฏ........................จึงปฏิบัติ ชั่วสะสม
(ถือว่า)กฎแห่งกรรม แค่คำคม...............จึงทับถม จิตงมงาย

    เมื่อกรรมมา ตามสนอง.....................ทุกข์เนืองนอง ต้องขวนขวาย
ลบล้างทุกข์ ขลุกข้องดาย.....................เลือกงมงาย ไสยพิธี

    วิกฤติกล้า หาได้ลด.........................เศร้าสลด หมองหมดศรี
สิ้นสดใส ในฤดี...................................ปัญหาปรี่ ย่ำยีใจ

    ยังสาไถย ไร้สำนึก...........................(เป็นคน)ทุจริตลึก เกินแก้ไข
มิล่วงซึ้ง ถึงปัจจัย................................กรรมจัญไร ให้โทษทัณฑ์

    (เวร)กรรมชดใช้ เมื่อไม่หมด...............กลับปรากฏ จรดอาสัญ
ชาติหน้ายัง ตามสั่งยัน-..........................ยืนทัณฑ์โทษ จวบหมดเอย ฯ

๙ มิถุนายน ๒๕๕๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น