เวรกรรมตามสนอง : กลอนหก
๏ คนตัดไม้
ทำลายป่า......................คิดไหมว่า อนาคต
เมื่อป่าหาย
ต้นไม้หมด.......................จะปรากฏ ทุพภิกขภัย ?
๏ เพราะคิดแต่
เห็นแก่ตน..................จึงบ่สน โค่นป่าไร้
ถึงหน้าฝน
ฝนหาไม่...........................มาก็(บ่า)ไหล ท่วมไร่นา
๏ คนก่อกรรม
กระทำเข็ญ...................คิดว่าเป็น กำไรหา
เอาเปรียบเขา
คือเสาวภา.....................ภูมิปัญญา ร่าเริงรมย์
๏ ไม่ศรัทธา
สังสารวัฏ........................จึงปฏิบัติ ชั่วสะสม
(ถือว่า)กฎแห่งกรรม
แค่คำคม...............จึงทับถม จิตงมงาย
๏ เมื่อกรรมมา
ตามสนอง.....................ทุกข์เนืองนอง ต้องขวนขวาย
ลบล้างทุกข์
ขลุกข้องดาย.....................เลือกงมงาย ไสยพิธี
๏ วิกฤติกล้า
หาได้ลด.........................เศร้าสลด หมองหมดศรี
สิ้นสดใส
ในฤดี...................................ปัญหาปรี่ ย่ำยีใจ
๏ ยังสาไถย
ไร้สำนึก...........................(เป็นคน)ทุจริตลึก เกินแก้ไข
มิล่วงซึ้ง
ถึงปัจจัย................................กรรมจัญไร ให้โทษทัณฑ์
๏ (เวร)กรรมชดใช้
เมื่อไม่หมด...............กลับปรากฏ จรดอาสัญ
ชาติหน้ายัง
ตามสั่งยัน-..........................ยืนทัณฑ์โทษ จวบหมดเอย ฯ
๙ มิถุนายน ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น