ชนชั้น(ไฮโซ-โลโซ) : กลอนเปล่า
๏ อาจจะเป็นค่านิยมที่สังคมสั่งสมกันนานมา
ผนวกกับวิถีชีวา
บนโลกาที่คละเคล้าด้วยความเศร้า
ความทุกข์ ความลำบากยากเข็ญ
จึงทำให้มองเห็น
ความมั่งมีทรัพย์สิน
เกียรติยศ ชื่อเสียง
เสมือนหนึ่งเยี่ยงสิ่งเลิศเลอ
จนเผลอนำไปใช้แบ่งแยก...สร้างความแตกต่างระหว่างบุคคล
๏ ความต้องการเป็นจุดศูนย์กลาง เป็นจุดสนใจ
อยากได้รับการให้ความสำคัญ
อยากมีความสุข
ความสบาย ตามที่หัวใจใฝ่ฝัน
เป็นเหตุให้มุ่งมั่น
บั่นบาก ด้วยความอยากเป็นอยากมี...อย่างที่มิเคยพอ
๏ จนมองข้ามคุณประโยชน์และความจำเป็น
กลายไปพยายามสร้างความโดดเด่น
ความแตกต่าง และห่างเหิน
เปรียบเทียบตนว่าเหนือกว่า
สูงกว่า วิเศษกว่าคนอื่น
โดยใช้อวิชชามาประเมิน
อ้างอิงสิ่งของส่วนเกิน
เพลิดเพลินไปกับภาพมายา
๏ ทั้งๆที่ทุกชีวิตต่างตกอยู่ภายใต้ภาวะอนิจจา
เกิดมาก็ต้องฟันฝ่าอุปสรรค
พยายามอย่างหนักเพื่อให้มีชีวิตรอด
โรค ภัย อันตรายมากมาย
กรีดกรายรายรอบตัว
ไม่ว่าวิถีชีวิตจะเป็นเยี่ยงไร
สุดท้ายต้องตายกันทั่ว
หากไม่โง่เขลาหรือเมามัว...น่าจะรู้ตัวและเข้าใจ
๏ การคิดเอา...ว่าเราเหนือกว่า(เขา)
ด้วยเงินตรา ฐานะ
เกียรติยศ ชื่อเสียง
ปฏิบัติต่อคนอื่นเยี่ยง
เพียงสิ่งต่ำต้อยด้อยค่าไร้
การดูถูกเหยียดหยามคนอื่น
อาจเป็นวิธีสร้างความชื่นฤทัยอย่างได้ผล
สร้างคุณค่าให้กับอัตตาตัวตน
โดยเดินหลงอยู่ในวังวนแห่งมายาการ
๏ อันที่จริง...การดูถูกเหยียดหยามเขา
นอกจากจะไม่ทำให้ตัวเราสูงขึ้น
มิหนำซ้ำยังตอกย้ำความต่ำตื้น
ของสติปัญญา-วิจารณญาณ...ว่าพาลฉล
เป็นสิ่งที่คิดเอาเอง
ยึดถือเอง เพ่งเองตามใจตน
แต่กลับไม่มีผลต่อคนอื่น...ผู้ไม่ยอมทนฝืนใจ
๏ หากไม่มีใครยอมรับกับค่านิยม
การแบ่งชนชั้น(ไฮโซ-โลโซ)ก็พลันบรรลัย
บุคคลนั้นไซร้
คงเป็นได้ไม่ต่างจากตัวตลก
ถือค่านิยมงมงาย
แหวกว่ายไปในอวิชชาลามก
มีความคิดที่สกปรก
เศษสวะรกเรื้อเฝือจิตใจ ฯ
๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น