ความดี-งามคือน้ำทิพย์
: กลอนแปด
๏ อากาศชื้น ยามเช้า เอาความสุข................มาปลอบปลุก
ลุกฟื้น ตื่นจากฝัน
เมื่อธรรมชาติ ปราศไป
ในปัจจุบัน......................รอแต่ฝน ดลดาล วันรดี
๏ (เห็น)แม่จูงมือ ลูกน้อย
เดินต้อยติด...............ให้หวนคิด คืนหลัง ครั้งเยาว์ศรี
ถูกแม่จูง มือจับ
กับพจี....................................เปี่ยมเมตตา ปราณี ปีติใจ
๏ คงไม่ใช่ เพราะเรา
เริ่มเฒ่าแก่......................จึงคิดแต่ อดีต หรือพิสมัย
เมื่อธรรมชาติ
ปัจจุบัน เริ่มบรรลัย.......................อดไม่ได้ ใคร่เปรียบ คิดเทียบเคียง
๏ จากถูกจูง กลับจ้อง
ต้องจูงแม่......................ความรู้สึก ต่างแท้ เว้นแต่เสียง
แม่ยังคง เมตตา
ปราณีเมียง.............................มองลูกเยี่ยง เด็กน้อย คอยดูแล
๏ กุศลจิต คิดใส่
ให้ความสุข...........................ไม่ต้องปลุก ปลอบใจ ร่ำไรแม้
ความดีงาม=น้ำทิพย์
จิบดวงแด.........................ที่พรมแผ่ แค่คน พิมลจินต์
๏ รสละมุน คุณธรรม
ค้ำจุนจิต..........................เลอเลิศฤทธิ์ เหนือรส หมดทั้งสิ้น
เป็นน้ำเลี้ยง
ประเสริฐศรี ปลูกชีวิน......................ให้เติบโต โศภิน ทั่ววิญญาณ์
๏ ปวงชีวี มีใจ
เป็นใหญ่สุด..............................จำเริญใจ ไม่หยุด ย่อมรุดหน้า
กิเลสลี้ ศีลธรรม
นำอุรา....................................สู่มรรคา สุคติ สิริตน
๏ ใจดีงาม ค้ำจุน
หนุนชีวิต..............................พบพิจิตร พิชยา โสภาผล
ไม่เสียที ที่เกิด
มาเป็นคน.................................มีกุศล มนมาน สะคราญเอย ฯ
๕ มิถุนายน ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น