อย่าสักแต่ว่ามาเกิด : กลอนเจ็ด
๏ ลมฝน ล้นฟ้า
ระดมฟาด................................ผวนผาด พัดโหม จู่โจมหัน
ปะทะ ป่าไหว
ปลายสายัณห์..............................ชั่วคราว เท่านั้น จรัลจร
๏ ข้าวหว่าน(ไว้) พลันงอก
ออกยอดเขียว............ผอมเรียว พร้อมสู้ อุปสรรคสร
ฝนห่าง ว่างเว้น
น้ำเข็ญคลอน.............................หรือท่วม ร่วมถอน บ่อนทำลาย
๏ ชีวิต พิจารณา
แม้(เป็น)มนุษย์........................อ่อนแอ แลดุจ (ต้น)กล้าทั้งหลาย
รอบตัว พัวพาน
ภยันตราย..................................ไม่วาย ชีวา ก็อาดูร
๏ ต้องสู้ ศึกษา
โลกาสัจ...................................ฝึกหัด พัฒนา อย่าสิ้นสูญ
ทักษะ คละเสริม
คอยเพิ่มพูน..............................จำรูญ จุนใจ ใคร่จริยา
๏ ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี
มีสำนึก..................................รำลึก ตรึกตรอง ส่องสิกขา
ตั้งตน บนความ
มีสัมมา......................................สามัญ สำนึก รู้สึกตน
๏ อย่าสัก แต่ว่า
มากำเนิด..................................เลยเถิด โฉดทำ ตามใจฉล
ขาดแคลน คุณธรรม
ความเป็นคน..........................เอ่อล้น หลักเดน เห็นแก่ตัว
๏ อย่าผลาญ โลกา
เพื่อผาสุก.............................สร้างทุกข์ แพร่พาล สาธารณ์ทั่ว
อย่าสัก แต่เขลา
หลงเมามัว.................................เหมือนบัว ใต้น้ำ เมินความดี
๏ ต้นกล้า เติบใหญ่
ยังให้ข้าว..............................เลี้ยงชาว ประชา โลกาศรี
หากเกิด เป็นคน
(แต่)ล้นราคี................................อนาถ บัดสี ชีวาทราม ฯ
๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น