ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

ทุกข์ถ้วนหน้า : กลอนสิ่งแวดล้อม



ทุกข์ถ้วนหน้า : กลอนสิ่งแวดล้อม 
(ฉันทลักษณ์ที่ผมคิดประดิษฐ์ขึ้นเอง)

    ....................................................แสงอรุณ รุ่งสาง ดั่งผ้าไหม
คลี่อ่อนนุ่ม คลุมฟ้า นภาลัย.....................สีสดใส ใคร่ตื่น มาชื่นชม

    .....................................................สกุณา ร่าเริง บันเทิงสม
เพรียกเพลงร้อง พร้องร่าย ไพรระงม..........รัญจวนจิต ชิดจม รมย์ฤดี

    .....................................................กระเล็นหลง ส่งเสียง เรียงถี่ๆ
กิ่งก้านไต่ ตาส่อง ป้องไพรี......................พร้อมท่าที ปรี่ขยับ อย่างฉับไว

    .....................................................ลมพัดดิน กลิ่นหญ้า หอมมาให้
บริสุทธิ์ ผุดผาด สะอาดไอ.......................จึงจำนง จงใน ไพรพนา

    .....................................................(หวัง)ให้อยู่ยง คงยาม ความเป็นป่า
คู่ปฐพิน ดินแดน แผ่นนภา........................เพื่อโลกหล้า สมดุล สุนทรทาน

    ......................................................อย่ามัวหวัง ตั้งจิต พิษฐาน
(จง)ประกอบด้วย ความดี+วิชาการ.............สู้ต่อต้าน กระแส แส่ทำลาย

    .......................................................(ความ)อยากมั่งมี ยีย่ำ ทำฉิบหาย
เศรษฐกิจ คิดนำ ธรรมชาติกลาย.................ดุจจะสาย เกินแก้ แล้โลกา

    .......................................................เห็นแก่ตน จนเร้น เห็นปัญหา
เห็นแก่ได้ โลภมาก หลากนานา..................(จึง)ไม่เห็นค่า อนาคต หมดสิ้นครัน

    ........................................................ภัยธรรมชาติ บัดนี้ ทวีผัน
ภัยมนุษย์ สุดร้าย ไม่เกรงทัณฑ์...................ทำให้วัน และคืน ขาดรื่นรมย์

    ........................................................ปัญหาซุก รุกซ้ำ ระยำถม
มีชีวิต (แต่)จิต(หวั่น)ไหว ใจกรอมกรม..........ทั่วสังคม สมควร ทุกข์ถ้วนเอย ฯ

๒๓ กันยายน ๒๕๕๗

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น