อกุศลหนทางเสื่อม : กลอนเจ็ด
๏ อากาศ อบอ้าว
ราวจะเรียก................พร้องเพรียก พายุ พัดสู่สัณฑ์
ฟ้าโปร่ง โล่งเปล่า
เร่าร้อนปัน.................แสงจัด สาดจ้าน ครั่นกายี
๏ หน้าฝน แท้ๆ
แต่ขาดฝน....................ร้อนรน จนคลาด ปราศสุขี
ความชื้น คงเชือน
เหมือนไม่มี.................หรือนี่ (คือ)สัญญาณ (หน้า)ฝนผ่านใย ?
๏ ไม่มี เมฆา
มาบังแดด........................สูรย์แผด ส่องเผา ผ่าวไฉน
ไม่มี
กุศล กำโบลใจ..............................ก็ไร้ สุขสันติ์ ลาญร่มเย็น(กำโบล=ลูบไล้)
๏ ชนมัก จักทำ
ตามใจอยาก..................การจะ กระดาก (ส่วน)มากไม่เห็น
(ความ)เกรงอก เกรงใจ
กลายดั่งเป็น.........สาปเร้น สูญไร้ กับสายลม
๏ ความโลภ โอบรัด
อัตตาหลั่ง...............สรรค์สั่ง พลังซ่าน กระสันสม
ความเหี้ยม โหดร้าย
ใจจ่อมจม.................เบียดเบียน เพียรบ่ม อารมณ์(มืด)ดำ
๏ ความไม่
เชื่อบุญ-สุนทาน-บาปฯลฯ........ดั่งส้อง ต้องสาป ตรับทรวงต่ำ
ความไม่ เชื่อหมด
กฎเวรกรรม...................ย่อมทำ สาไถย (อย่าง)ไม่เกรงกลัว
๏ ถึงมี ปริญญา
ความสามารถ..................เมื่อปราศ ศีลธรรม ประจำทั่ว
ไม่สร่าง ต่างซึ่ง
สัตว์หนึ่งตัว......................เมามัว ชั่วเดช กิเลสดอง
๏ ถึงมี สินทรัพย์
คับสมบัติ.......................อำนาจ รัฐกุม รุ่มผยอง
(ถ้า)วิถี ชีวิต
ผิดครรลอง...........................ก็ต้อง ตกต่ำ ระกำเอย ฯ
๒๒ กันยายน ๒๕๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น