บริหารเงิน : โคลงสี่สุภาพ
๑. ฝนตกค่ำจรดเช้า...................จุใจ
หลังจากห่างเหินไกล................เกือบแล้ง
สุริยนอยู่หนใด ?......................ไป่สบ
พบเมฆาแผ่แกล้ง.....................กลบฟ้าพลาผยอง
ฯ
๒. มองเห็นเพียงแสงเรื้อง............รำไร(เรื้อง=เรือง)
จนเพลาผ่านไคล.......................สายคล้อย
เหมือนฝนมิใส่ใจ.......................ธุรกิจ
ปิดโอกาสเหลือน้อย...................พ่อค้าแม่ขาย
ฯ
๓. อย่างไรยังเปิดร้าน...................ปกติ
พากเพียรพยายามมิ....................เกียจคร้าน
ฝนตกก็ช่างสิ.............................เสมือนเอ่ย
ขืนอยู่เฉยทรัพย์ม้าน....................กิน-ใช้เช่นเดิม
ฯ(ม้าน=เหี่ยวแห้ง)
๔. ตราบยังเริ่มเปิดร้าน.................ย่อมมี
โอกาสขายของดี.........................แม้น้อย
หาควรปล่อยชีวี...........................สูญเปล่า
เอาแต่เล่นเป็นร้อย......................ไร้วุฒิภาวะ
ฯ
๕. คนสมัยใหม่ต้องพึ่ง...................เงินตรา
แลกเปลี่ยนสิ่งของอา-...................หารเกื้อ
นอกจากเพียงเพื่อหา.....................จับจ่าย
ขวนขวายเก็บออมเอื้อ....................เผื่อไว้อนาคต
ฯ
๖. เงินหมดหากเจ็บไข้....................ขึ้นมา
เอาอะไรเป็นค่ายา.........................ค่ายื้อ?
ชีวิตวิกฤติถา................................เคราะห์ถ่วง
อาจจำล่วงเงินรื้อ...........................ออกใช้ไขขัดสน
ฯ
๗. จงเตือนตนอย่าคร้าน...................ทำกิน
อย่าจับจ่ายจนชิน...........................ก่อหนี้
เงินเหลือก่อนชีวิน..........................วายดับ
ดีกว่าเงินลับลี้................................แต่ครั้งยังชนม์
ฯ
๘.
รายจ่ายอย่าให้ล้น.......................รายรับ
อย่าก่อภาระสรรพ...........................เกินกล้า
ความสันโดษคือทรัพย์.....................อันยิ่ง(สันโดษ=ยินดีเท่าที่มีเท่าที่ได้)
เห็นสิ่งของสินค้า............................อย่าซื้อเกินจำเป็น
ฯ
๒๖ กันยายน ๒๕๕๗
*สนฺตุฏฺฐี ปรมํ ธน ความสันโดษเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง (พุทธพจน์)
*สนฺตุฏฺฐี ปรมํ ธน ความสันโดษเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง (พุทธพจน์)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น