พึงพิศ พึงทำ : กลอนเปล่า
๏ อันที่จริง
การละเลยไม่คำนึงถึง
อายุขัยของเรา(อายุขัย=เขตอายุสูงสุด)
ก็นับเป็นการดี
๏ เพราะเราจะได้ทุ่มเทเวลา
ให้กับเรื่องที่สนใจ
ให้กับสิ่งที่อยากทำ
ไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จ
๏ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เมื่อสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จ
มีมากมายหลายอย่าง
ทั้งที่ทำไปแล้ว
และที่ยังไม่ได้
แม้แต่เริ่มต้นลงมือทำ
๏ แต่กระนั้นก็ตาม
การคำถึงถึงอายุขัยที่เหลืออยู่
โดยเฉพาะ
กับผู้ล่วงเข้าสู่ความเป็นผู้สูงวัย
กลับเป็นสิ่งที่พึงควร
และพึงทำเป็นอย่างยิ่ง
๏ เพราะจะได้หยุดทบทวน
อย่างละเอียดถี่ถ้วน
ถึงชีวิตจริงที่เป็นมา
และชีวาที่จะเป็นไป
๏ เพื่อว่าจะได้ตัดสินใจ
ยุติการกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด
ไม่ว่าจะทำไปมากน้อยเพียงใด
ไม่ว่าใกล้ความสำเร็จเพียงใด
ไมว่าจะเคยมีความสำคัญเพียงใด
มาก่อนก็ตามที
๏ เพราะเราไม่มีเวลาเหลือมากพอ
เพื่อที่จะทำต่อให้สำเร็จ
เพื่อชื่นชมความสำเร็จ
๏ หรือในเมื่อทบทวนแล้วว่า
สิ่งนั้น
ไม่มีประโยชน์มากพอ
ไม่มีความสำคัญเพียงพอ
ต่อบั้นปลายชีวิตของเราอีกต่อไป
๏ สำหรับอายุขัย
ที่ได้เหลืออยู่เพียงน้อยนิด
ยังมีสิ่งอื่น
ซึ่งยังไม่เคยพินิจ
ไม่เคยสนจิตสนใจใฝ่กระทำ
ด้วยไม่เคยเห็นเป็นสิ่งสำคัญ
เพราะมัวแต่พิจารณา
นำชีวาไปสู่อนาคตที่ไม่มีวันหมดสิ้น
๏ แต่บัดนี้ ณ
เวลาที่อายุขัย
เหลืออยู่อีกไม่มาก
ไม่มีสิ่งใด สำคัญนอกเหนือไปจาก
การได้ทุ่มเท
ทำสิ่งดีๆ
ให้กับคนที่รักเรา
เพื่อคนที่ดูแลเรา
มอบแด่คนที่ช่วยเหลือเรา
๏ ไม่มีสิ่งใดที่ทำแล้ว
จะนำพาจิตใจ
ให้สงบสุขสันติ์
ผ่อนคลาย
ตื้นตัน เท่า
กับการได้กตัญญู กตเวที
ต่อแผ่นดินที่เราถือกำเนิด
ต่อแผ่นดินที่เราถือกำเนิด
ตอบแทนโลกที่เราได้อาศัยมาตลอดชีวิต
๏ ด้วยจิตใจที่ไม่ทะยานอยาก
หยุดการกระทำที่คอยคิดเอาแต่ได้
เลิกคำนึงถึงแต่ประโยชน์พวกพ้อง
และที่สำคัญที่สุด
ไม่เห็นแก่ตัว
๏ ด้วยหัวใจที่ใสสะอาด
ปราศจากมลทิน
ราคินใดๆ
ไร้ความกระหาย
ไร้ความรู้สึกขาดแคลน
๏ เป็นหัวใจที่เต็มเปี่ยม
สมบูรณ์
เป็นดวงจิตที่อบอุ่น
ละมุนละไม
ไม่แบ่งแยก
ไม่เสียเวลาไปขัดแย้งกับใครๆในโลก
ที่เราจะต้องวิโยคจากไป
ณ
วันหนึ่งข้างหน้า
ในเวลาอีกไม่นาน
ฯ
๒๗ สิงหาคม
๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น