อย่าหา กุศล
กับคนชั่ว : กลอนแปด
๏ อากาศร้อน ร้อนจัด ประหลาดจิต หนึ่งอาทิตย์
ติดต่อ ก่อทุกขา
คำทักทาย
ในเหล่า ชาวประชา ล้วนต่อว่า
อากาศ อนาถใจ
๏ พ้นหัวค่ำ พร่ำเพรียง เสียงฟ้าร้อง คึกคะนอง
ก้องแม้น แผ่นดินไหว
สายฟ้าผ่า
ฟ้าแลบ แปลบปลาบไป ลมกระโชก
โกรกไกร ไร้ปราณี
๏ ปานหยาดเพชร เกล็ดแก้ว หยดแล้วฝน ทยอยหล่น จนสาด
ถนัดถนี่
สรรพชีวิต
สถิตใน ไพรพงพี ต่างยินดี
ปรีดา สาธุการ
๏ ในความมืด มีเพียง เสียงฝนริน แสนไพเราะ
เสนาะยิน วิญญาณ์ศานติ์
แทรกเสียงฟ้า
คะนอง คล้องกังวาน ผสมผสาน
คันธะ อากาศเย็น(คันธ=กลิ่นหอม)
๏ อากาศร้อน อ่อนใจ ยังได้ฝน รินหลั่งหล่น
ระคนคลาย กายทุกข์เข็ญ
แต่กมล คนชั่ว
หัวใจเดน หาแลเห็น กุศล
จนสักนิด
๏ อย่ามัวหา กุศล จากคนชั่ว เห็นแก่ตัว
หัวใจ ให้ทุจริต
เสาะสามานย์
สัญญา มนาคิด อำมหิต จิตไถย
ใจทารุณ
๏ มิเหลียวเห็น ผู้ใด ในสายตา มีก็แต่ ตัณหา
มาดสถุล
มิเชื่อกฎ
แห่งกรรม หยามบาปบุญ มักวายวุ่น
หมุนเวียน เบียนเบียดชน
๏ นึกเปรมปรีดิ์ ดีใจ ได้ทำชั่ว มืดเมามัว
กิเลส เฉทกุศล
ความดีทำ
กล้ำกลืน ต้องฝืนทน เพื่อหวังผล
ท้นแทน แสนเท่าคืน
๏ มานมลทิน จินดา ตระบัดสัตย์ ถ่อยถนัด
ทางบาป ไป่ปราบฝืน
ชั่วมิจฉา
ทรงสถิต จิตยั่งยืน อย่าไปขืน
คาดค้น กุศลธรรม
๏ ปรากฏเนื่อง เครื่องหมาย ใครคนชั่ว ให้เห็นทั่ว
ถึงแก่น ที่แสนต่ำ
ทุจริต จิตพาล
ประจานกรรม ได้จดจำ คำนึง
ตรึงติดตา ฯ
๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น