โสดแล้วไง?สุขกว่าคบคนสัจจะ :
กลอนแปด
๏ ไม่ให้สุ้ม ให้เสียง
เที่ยงฝนตก...............วลาหก ปกคลุม กุมเวหา
ฤดูหนาว เข้าปลาย
พฤศจิกาฯ...................แต่ทว่า ฟ้าฝน บ่สนใจ
๏ ลมมรสุม พัดมา
มิซาสร่าง....................ความแตกต่าง ของฤดู อยู่ตรงไหน?
เมื่อปลายฝน ต้นหนาว
ยืดยาวไป...............ทำอะไร ให้ยาก ฝากฟ้าดิน
๏ ลม-ฟ้า-ฝน กลไก
ทายลำบาก...............ยังไม่ยาก เท่าใจ คนใคร่ฉิน(ฉิน=ติเตียน)
แสนอัตคัด สัจจะ
เป็นอาจิณ......................โฉดชั่วช้า ราคิน คงวิญญาณ
๏ เพราะเห็นแต่ แก่ตน
ล้นหัวใจ................จึงเบียดเบียน ใครๆ ได้อาจหาญ
ความเมตตา กรุณา
แผ่สาธารณ์..................นับเป็นการ เรียกร้อง ที่ล่องลอย
๏ เมื่อผู้ใด ไม่มี
ศีลสัตย์...........................อย่าประหวัด ทัดทาน ปานฟื้นฝอย
คนนิสัย ไม่เสียสละ
อย่ามัวคอย..................ให้ลงมา จากดอย แห่ง(ความ)ใจมาร
๏ ศึกษาใจ ของคน
จนทั่วก่อน...................ดีกว่าตอน คบหา ค่อยมาขาน
อยู่กินแล้ว ค่อยรุด
ขุดสันดาน.....................คำประจาน บาดจิต ชวนผิดใจ
๏ คนไม่มี ศีลธรรม
กำกับเจต.....................จงปฏิเสธ คบหา อัชฌาศัย
รัก(คน)พาโล โป้ปด
อย่าโทษใคร................ความมักง่าย ใครครอง เศร้าหมองมี
๏ ผู้กลัวว่า จะไม่
มีใครคบ..........................พบจุดจบ หลากหลาย ในโลกนี้
หากแม้นไม่ พบใคร
(ผู้มี)จิตใจดี..................ขอโสดอยู่ สุขี เปรมปรีดาฯ
๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น