ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2559

กาลกฐิน..กาลกิเลส? : โคลงสี่สุภาพ

ภาพถ่ายดาวเทียมสภาพอากาศ วันที่ 22 ตค. 2559/11:00 น.


กาลกฐิน..กาลกิเลส? : โคลงสี่สุภาพ

๑. เหมือนมีเกราะปกป้อง..................กันภัย
ผลักดันพายุไป.............................แผ่วพ้น
ความกดอากาศสูงไส.....................เมฆหมู่
สู่ทะเลจีนใต้ท้น............................น้ำท่วมอันตรธานฯ

๒. ออกพรรษาพี่น้อง........................ไทยพุทธ
ต่างพากันอุตลุด............................เร่งซื้อ
เครื่องกฐินกันเป็นชุด......................กองใหญ่
ถวายวัดเสียงอึงอื้อ.........................อวดอ้างบุญมหันต์ฯ

๓. หมายมั่นมุ่งจิได้...........................เงินตรา
มากๆชวนชักพา.............................พี่น้อง
เพื่อนฝูงวงศาคณา..........................ญาติมิตร
ร่วมอุกฤษฏ์แซ่ซ้อง.........................ว่าได้ทำบุญฯ

. พูนกิเลสตัณหาให้.........................พัฒนา
มิใช่หลักพุทธศาสนา........................สอนแล้ว
ธรรมวินัยมิประสา.............................ปฏิบัติ
ตัดสินตามใจแกล้ว...........................กิเลสกล้าสาไถยฯ

. ธรรมวินัยว่าด้วยเรื่อง.......................กรานกฐิน
เกี่ยวกับการร่วมจินต์(สงฆ์).................เย็บผ้า
คงเพราะพุทธกาลสิน-.......................ทรัพย์ขัด(สน)
(พุทธองค์)ทรงประกาศกิจเฉพาะหน้า...(แค่)ช่วงพ้นพรรษาฯ

๖. ไม่ใช่เพื่อวุ่นว้า...............................หาเงิน
หวังผลบุญกำไรเกิน..........................จ่ายไว้
พระ-วัด รับเงินเพลิน..........................พาลจริต
ชีวิตคนทำ(บุญ)ไซร้..........................ยากแค้นแสนเข็ญฯ

. อย่าเห็นพุทธศาสน์เพี้ยง...................ศักดินา
ลาภ-ยศ-สักการฯลฯ หา.....................กิเลสเลี้ยง
เลิกอาศัยวัดวา.................................เป็นแหล่ง
แอบแฝงหากินเพี้ยง..........................พ่อค้าพาณิชย์ฯ

๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๙

กฐิน ตามศัพท์แปลว่า ไม้สะดึง คือไม้แบบสำหรับขึงเพื่อตัดเย็บจีวร;
       ในทางพระวินัยใช้เป็นชื่อเรียกสังฆกรรมอย่างหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตแก่สงฆ์ผู้จำพรรษาแล้ว เพื่อแสดงออกซึ่งความสามัคคีของภิกษุที่ได้จำพรรษาอยู่ร่วมกัน โดยให้พวกเธอพร้อมใจกันยกมอบผ้าผืนหนึ่งที่เกิดขึ้นแก่สงฆ์ ให้แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งในหมู่พวกเธอ ที่เป็นผู้มีคุณสมบัติสมควร แล้วภิกษุรูปนั้นนำผ้าที่ได้รับมอบไปทำเป็นจีวร (จะทำเป็นอันตรวาสก หรืออุตตราสงค์ หรือสังฆาฏิก็ได้ และพวกเธอทั้งหมดจะต้องช่วยภิกษุนั้นทำ)
       ครั้นทำเสร็จแล้ว ภิกษุรูปนั้นแจ้งให้ที่ประชุมสงฆ์ซึ่งได้มอบผ้าแก่เธอนั้นทราบเพื่ออนุโมทนา เมื่อสงฆ์คือที่ประชุมแห่งภิกษุเหล่านั้นอนุโมทนาแล้ว ก็ทำให้พวกเธอได้สิทธิพิเศษที่จะขยายเขตทำจีวรให้ยาวออกไป (เขตทำจีวรตามปกติ ถึงกลางเดือน ๑๒ ขยายต่อออกไปถึงกลางเดือน ๔);
       ผ้าที่สงฆ์ยกมอบให้แก่ภิกษุรูปหนึ่งนั้น เรียกว่า ผ้ากฐิน (กฐินทุสสะ);
       สงฆ์ผู้ประกอบกฐินกรรมต้องมีจำนวนภิกษุอย่างน้อย ๕ รูป;
       ระยะเวลาที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ประกอบกฐินกรรมได้ มีเพียง ๑ เดือน ต่อจากสิ้นสุดการจำพรรษา เรียกว่า เขตกฐิน คือตั้งแต่แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น