ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2559

โรคร้ายในใจ : กาพย์ยานี๑๑



โรคร้ายในใจ : กาพย์ยานี๑๑

    กิเลส คือโรคร้าย......................ที่ทำลาย ธรรมกุศล
ปั่นปลุก ไฟรุกรน..........................ไหม้ท่วมท้น มลทินธาร

    ต่อให้ ได้เข้าสู่..........................องค์ความรู้ มหาศาล
ปริญญา แขวนเต็มบ้าน...................ก็มลาน ไร้เหตุผล(มลาน=เหี่ยว,แห้ง,ตาย)

    เปิดเด่น ความเป็นสัตว์................ในมนัส ปัจเจกชน
ดวงจินต์ เวียนดิ้นวน.......................เห็นแก่ตน อวิชชา

    ถูก-ผิด วินิจฉัย...........................โดยหัวใจ เปี่ยมตัณหา
ก็เหมือน เมาสุรา............................แล้วต้องมา เดินตัวตรง

    กระมล คนส่วนใหญ่.....................ย่อมติดใจ ยังใหลหลง
กิเลส แกร่งมั่นคง............................มิจำนง จะลดรา

    (เมื่อ)กาจตาม กามกระแส.............มองเห็นแต่ กิเลสตัณหา
ต่อให้ (มี)พระปฏิมา.........................ก็คิดค้า ขายหากิน

    มะเร็ง ยังชิดซ้าย.........................ยอมแพ้พ่าย กิเลสสิ้น
กัดกร่อน สุนทรจินต์.........................จนขาดวิ่น สิ้นคุณธรรม

    ลด ริ ละกิเลส.............................ขจัดเฉท ตัณหาส่ำ(เฉท=การตัด,การขาด)
จิตใส ใจสุกนำ................................ล้ำชีวิต วิศิษฏ์เทอญฯ(วิศิษฏ์=ดียิ่ง,ประเสริฐ)

๔ กันยายน ๒๕๕๙

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น