อุปธิค่านิยม : กลอนเปล่า
๏ แสงนวลทอง ของสุริโยทัย
แปรผันการหลับใหล
จนไร้ซึ่งรสสิเน่หา
ความสว่างย่างผ่านเปลือกตา(ที่ปิดสนิท)
ปลุกสติสัมปชัญญะ
คืนกลับมีมาเหมือนเดิม
๏ เมฆสีเทาเบาบาง แผ่กว้างคลุมพื้นนภดล
เช้าวันนี้จึงวิมล
แม้อาจจะมีฝนตอนสายๆ
ลมแผ่วเบาเป่าพัด
มิคลาดคลาย
สร้างความเย็นสบาย
ให้ฤดูร้อนชื้นอย่างกลืนกลม
๏ แม้ว่าจะเป็นวันหยุด
ทว่าใจมนุษย์หาหยุดนิ่งไม่
หากแต่ยังดิ้นรน
กระเสือกกระสน วนเคลื่อนไหว
เพื่อให้ได้
ซึ่งสิ่งที่ตั้งความปรารถนา
๏ ความจริงคือ
หัวใจอยากกระหายอยู่เสมอ
ท้นเท้อด้วยแรงผลักดันแห่งตัณหา
คอยขับเคลื่อน
ชรริน จินดา(ชรริน=ประดับ)
ในคราบของอัตตา
เป็นอาภรณ์
๏ เมื่อถูกความอยากคอยผลักไส
จิตใจจึงห่างหาย
จากสภาวะสันติ
ความไม่รู้ซึ้งถึงสัทธรรมชำนิ
จึงเกิดดำริ
ก่ออุปธิค่านิยม(อุปธิ=กิเลส)
๏ ยกย่องความร่ำรวย-ยศ-ศักดิ์ และอำนาจ
ปรารถนาอยากมีอยากได้ใคร่สะสม
โอ้อวดตัวตน
เหนือผู้คนในสังคม
แสดงความคิดโง่งม
จิตใจโสมม ออกมา
๏ ที่แท้เป็นเพียงแค่คนสามัญ
กระเสือกกระสัน
ยึดมั่นต่อตัณหา
หลงยึดติดต่อมิจฉาสภาวะ
อันเป็นภาพลวงตา
ปราศจากประโยชน์และโฉดฉลคุณค่า
สะท้อนสติปัญญาระดับโลกีย์ฯ
๒๐ กันยายน ๒๕๕๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น