ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ลำพองใจ : กลอนเจ็ด



ลำพองใจ : กลอนเจ็ด

    น้ำนอง ท้องนา หลังฟ้ารั่ว...................มืดมัว เมฆา สุดตาเห็น
แสงสูรย์ สลัว ทั่วป่าเป็น............................เยือกเย็น ชื้นอยู่ ชูชื่นใจ

    หลังจาก หนักหนา ปัญหาแล้ง................ทุกหน ทุกแห่ง ค่อยแจ้งไข
มรสุม รุมเร้า บ่อยเข้าไป.............................ทำให้ น้ำท่วม น่วมธานี

    เพื่อความ จำเริญ ทางวัตถุ......................กลับลุ แก่กรรม ทำบัดสี
ทำลาย ธรรมชาติ พินาศมี...........................ย่ำยี อุดม เสียสมดุล

    มิต่าง ห่างไกล (การ)ใช้ชีวิต....................ยึดติด อัตตา ตัณหาหนุน
หลงใหล ในรส นทกามคุณ..........................หมกมุ่น มนา อัชฌาใน(นท=แม่น้ำ)

    บกพร่อง คลองธรรม ความสำนึก...............ตรองตรึก แต่อยาก ตรำผลักไส
ก่อกรรม ทำเข็ญ เป็นสุขใจ...........................อย่างไม่ เกรงกลัว ชั่วบาปเวร

    ตราบที่ ผลกรรม (ยัง)มิตามสนอง..............ลำพอง อุรา มานะเล่น
โทษยัง ไม่ได้(รับ) กลับใจเย็น.......................ว่างเว้น ประจักษ์ ตระหนักใจ

    แต่เมื่อ ปัญหา เริ่มปรากฎ.........................มาบด มาบัง มล้างให้(มล้าง=ผลาญ)
สิ้นสุข ทุกข์ทรวง ถ่วงฤทัย............................จะชอก ช้ำใจ เจียนวายวาร

    ชีวิต ผิดพลาด พินาศผุด...........................เหมือนไม่ สิ้นสุด ไม่หยุดผลาญ
ทุกข์แล้ว ทุกข์เล่า เข้าโรมราญ......................ทรมาน ทารุณ อาดุรเอย ฯ

๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น