ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สุขล้นพ้นทุกข์ : กลอนเจ็ด(กลอนรักษ์ป่า)



สุขล้นพ้นทุกข์ : กลอนเจ็ด(กลอนรักษ์ป่า)

    เวลา วารี มิคอยท่า..................โบราณ ท่านว่า น่าเลื่อมใส
หากเว ลานี้ วารีไทย.......................หามี น้ำให้ เห็นไหลริน

    อุบัติ ตัดไม้ ทำลายป่า.................นำพา ทุกข์ สู่ มิรู้สิ้น
มีดิน ไม่ต่าง ร้างผืนดิน.....................ทำมา หากิน ไม่ได้เลย

    ในน้ำ มีปลา นามีข้าว...................คำกล่าว เบาใจ (ชวน)ให้นิ่งเฉย
ไร้น้ำ ทำเอา แล้งเร่าเชย...................ข้าว-ปลา ระเหย เผยเพียงไอ

    ป่าไม่ ปรารถนา อนุรักษ์................คอยสัก มักแส่ เห็นแก่ได้
ชีวิต คิดสั้น ย่อมบรรลัย.....................ทำตาม แต่ใจ ไม่จำเริญ

    ยกภูมิ ปัญญา ตายายอ้าง..............แห่นาง แมว;บ้าง ไม่เก้อเขิน
ศิวลึงค์ ดึงดัน แห่อัญเชิญ..................ลามก สรรเสริญ เพลินอุรา

    ธรรมชาติ ของโลก คงปกติ.............ธรรมชาติ คนสิ ปรี่ปัญหา
โลภมาก ดักดาน ผลาญโลกา..............นำพา ผลชั่ว คืนตัวคน

    สร้างเขื่อน เข้าไป ให้ตายห่า...........(ต้อง)บุกล้าง ถางป่า อย่าหมายฝน
เก็บกัก อากาศ อนาถกล.....................ประจญ ภัยแล้ง แห้งกว่าเดิม

    ต้องลด โลภะ มนาเคร่ง..................ต้องเร่ง ปลูกป่า พนาเสริม
ธรรมชาติ (เคย)ขาดฟื้น ความชื้นเพิ่ม.....จะเริ่ม สุขล้น พ้นทุกข์เอย ฯ

๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น