สุขล้นพ้นทุกข์ : กลอนเจ็ด(กลอนรักษ์ป่า)
๏ เวลา วารี มิคอยท่า..................โบราณ
ท่านว่า น่าเลื่อมใส
หากเว ลานี้
วารีไทย.......................หามี น้ำให้ เห็นไหลริน
๏ อุบัติ ตัดไม้ ทำลายป่า.................นำพา
ทุกข์ สู่ มิรู้สิ้น
มีดิน ไม่ต่าง
ร้างผืนดิน.....................ทำมา หากิน ไม่ได้เลย
๏ ในน้ำ มีปลา
นามีข้าว...................คำกล่าว เบาใจ (ชวน)ให้นิ่งเฉย
ไร้น้ำ ทำเอา
แล้งเร่าเชย...................ข้าว-ปลา ระเหย เผยเพียงไอ
๏ ป่าไม่ ปรารถนา
อนุรักษ์................คอยสัก มักแส่ เห็นแก่ได้
ชีวิต คิดสั้น
ย่อมบรรลัย.....................ทำตาม แต่ใจ ไม่จำเริญ
๏ ยกภูมิ ปัญญา ตายายอ้าง..............แห่นาง
แมว;บ้าง ไม่เก้อเขิน
ศิวลึงค์ ดึงดัน
แห่อัญเชิญ..................ลามก สรรเสริญ เพลินอุรา
๏ ธรรมชาติ ของโลก คงปกติ.............ธรรมชาติ
คนสิ ปรี่ปัญหา
โลภมาก ดักดาน
ผลาญโลกา..............นำพา ผลชั่ว คืนตัวคน
๏ สร้างเขื่อน เข้าไป
ให้ตายห่า...........(ต้อง)บุกล้าง ถางป่า อย่าหมายฝน
เก็บกัก อากาศ
อนาถกล.....................ประจญ ภัยแล้ง แห้งกว่าเดิม
๏ ต้องลด โลภะ
มนาเคร่ง..................ต้องเร่ง ปลูกป่า พนาเสริม
ธรรมชาติ (เคย)ขาดฟื้น
ความชื้นเพิ่ม.....จะเริ่ม สุขล้น พ้นทุกข์เอย ฯ
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น