ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน
: กลอนคติเตือนใจ
๏ รอจนแทบ ใจสลาย
(ถึง)ปลายเดือนเจ็ด.........ฝนเริ่มเล็ด ลอดริน ดินชุ่มฉ่ำ
ข้าวแห้งตาย ไปบ้าง
ช่างระกำ..........................ชีพชอกช้ำ ลำเค็ญ เป็นชาวนา
๏ ความเห็นอก เห็นใจ
จากภายนอก.................ไม่ช่วยดอก หาก(ยัง)ตัดไม้ ทำลายป่า
ใส่แต่สาร เคมี
เท่าบีฑา..................................ผืนดินให้ มรณา ฆ่าอินทรีย์
๏ กระดูกสันหลัง ของชาติ
ขาดความคิด............ทำตามจิต มิจฉา หาวิถี
เป็นคนรัก ความมักง่าย
(แต่)อยากได้ดี...............ชีวิตนี้ มิพ้น ทุกข์วนเวียน
๏ สัจจะเห็น เป็นไป
ในโลกล้วน.......................เหตุกระบวน ถ้วนถี่ มิแปรเปลี่ยน
เพราะทำชั่ว
ด้วยตัวเอง พึงเพ่งเพียร...................เกิดบทเรียน เจียนจิต พิทยา
๏ เอาความผิด(พลาด) เป็นครู
อย่าอยู่นิ่ง............เอาความจริง อิงสรร แก้ปัญหา
เอาความสัตย์ ทัศนีย์
ปฏิญาณ์...........................เอาความกล้า บำรุง ปรับปรุงตน
๏ มิงอมือ งอเท้า
เฝ้าแต่รอ..............................เฝ้าแต่ขอ น้ำใจ ไร้เหตุผล
รอคอยความ ช่วยเหลือ
พร่ำเพรื่อรน....................แต่กลับไม่ คิดค้น ช่วยตนเอง
๏ ความสามารถ=สัจธรรม->ความสำเร็จ..............อุตสาหะ พาเผด็จ เจตกล้าเก่ง
ความทุ่มเท ลังเลไร้
ใช้บรรเลง...........................ร้อยบทเพลง รัถยา ชีวาชัย
๏ คนไม่หยุด อุตส่าห์
จะเป็นสุข..........................คนเกียจคร้าน จะทุกข์ และยากไร้
" ตนแลเป็น ที่พึง "
จงซึ้งใจ...............................คนอื่นพอ ช่วยได้ (แต่)ไม่มากเอย ฯ
๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น