สงบจิตสนิทใจ : กลอนเจ็ด
๏ อากาศ อบอ้าว
แต่เช้าตรู่................มองดู นภดล มัวหม่นหมอง
เมฆครึ้ม ซึมเซา
เข้าครอบครอง...........สูรย์เซื่อง เรืองรอง ส่องรำไร
๏ กระเล็น ตื่นเช้า
เร่าหากิน................กายิน ปีนเกาะ เลาะกิ่งไม้
สอดส่าย สายตา
ระวังระไว..................มิใย ยังร้อง เพรียกพ้องพาน
๏ ลมรำ เพยพัด สะบัดพลิ้ว................ใบไม้
ไหวปลิว ละลิ่วพล่าน
ประดุจ ดั่งมี
ฤดีมาน...........................ต้องการ โบยบิน ถิ่นฟ้าไกล
๏ หลังลด ตัณหา
ละกิเลส..................ปฏิเวธ วิถี นิรัติศัย(นิรัติศัย=ประเสริฐยิ่ง)
ประสบ
สงบจิต สนิทใจ......................."อยาก"คลาย ไม่คิด อภิชฌา(อภิชฌา=ความโลภ)
๏ รูป-รส-กลิ่น-เสียงฯลฯ เพียงสัมผัส....มิอาจ
มัดใจ ให้ปรารถนา
กุศล ธรรมส่อง
ท่องสัจจา....................สัมมา ทิฏฐิ ปฏิภาณ
๏ ไม่ร้อน รุ่มจิต
คิดอยากได้................อยากใคร่ ในความ ตะกลามขาน
ไม่สร้าง เสียงร้อง
สิต้องการ.................ทะยาน อยากเป็น เกินเกณฑ์ตน
๏ ไม่เบียด เบียนใคร
ให้ลำบาก............ไม่อยาก แย่งยุ สร้างอกุศล
ไม่ก่อ กรรมบาป
แม้อับจน....................ไม่ฉล ฉ้อจิต นิตยา
๏ วิกรม ร่มเย็น
เป็นลำยอง..................พิสุทธิ์ ผุดผ่อง ส่องใบหน้า
โดดเด่น เห็นได้
ไร้มารยา.....................ปรีดา ปรารมภ์ สุขสมเอย ฯ
๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๗
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น