๏ ธรรมะ หาได้ ใช่วัคซีน(โควิด19).......................ฤาษี ผู้ทรงศีล (ยังต้อง)กินเภสัช(ยารักษาโรค)
พระอรหันต์ พรรณนา ปรมัตถ์........................ก็บ่อาจ ขัดขืน ฝืนความตาย
๏ เมื่อเวร กรรมเก่า เข้าผจญ................................รดน้ำมนต์ เป็นปี มิช่วย(ให้)หาย
อยากอยู่ดี กินดี ชีวาสบาย............................ต้องขวนขวาย ขยัน สู้งานทำ
๏ มนตรา หาได้ ให้(ความ)ศักดิ์สิทธิ์.....................พระที่ มีอิทธิฤทธิ์ คิดให้ขำ(เรื่องตลกเหลวไหล)
ผ้าเหลือง เช็ดถู ดูเปื้อนดำ(สกปรก)...............มิล้ำ เลอเลิศ ประเสริฐเป็น
๏ หลักธรรม นำพา สัจจารู้...................................มิใช่ ไสสู่ ทุราเข็ญ(ทุร-=ชั่ว, ยาก, ลําบาก)
กำจัด อวิชา มายาเบน..................................เล็งเห็น ภัยผอง เตรียมป้องกัน(ตัว)
๏ (การ)ปฏิบัติธรรม เพื่อให้ ไม่โง่เขลา..................(ไม่ใช่)มัวเมา ยัดเยียด เบียดเสียดสรร
แพร่เชื้อ โควิด(19) ติดต่อปัน.........................จนอาสัญ เจ็บไข้ ไร้ปัญญา
๏ ถ้าศึกษา ธรรมะ ยังประมาท..............................คงไม่อาจ ตัดกิเลส เฉดตัณหา
หากยังหลง วิถี อวิชา.....................................ก็อย่าหวัง สั่งสม อุดมบุญ
๏ หลักธรรม ต้องสัมมา ปฏิบัติ..............................จึงจะ ขจัด บาปสถุล
มิจฉา ปฏิบัติ ปราศจากคุณ.............................เกื้อหนุน งุนงง หลงงมงาย
๏ (เป็น)พุทธศา สนิกชน ต้องพ้นเขลา...................ความชั่ว มัวเมา เผา(ผลาญ)สลาย
มีความ ไม่ประมาท ปราดเปรื่องปราย...............โรคร้าย ภัยผอง ป้องกันเอยฯ
๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๔
พระไตรปิฏกเล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๑ [ฉบับมหาจุฬาฯ] สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
๖. ทุติยอสัปปุริสสูตร
ว่าด้วยอสัตบุรุษ สูตรที่ ๒
[๒๖] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี “ภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงอสัตบุรุษและอสัตบุรุษที่ยิ่งกว่าอสัตบุรุษ และ จักแสดงสัตบุรุษและสัตบุรุษที่ยิ่งกว่าสัตบุรุษแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง อสัตบุรุษ เป็นอย่างไร คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิ ฯลฯ มีมิจฉาสมาธิ บุคคลนี้เรียกว่า อสัตบุรุษ อสัตบุรุษที่ยิ่งกว่าอสัตบุรุษ เป็นอย่างไร คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิ ฯลฯ มีมิจฉาสมาธิ มีมิจฉา- ญาณะ (รู้ผิด) มีมิจฉาวิมุตติ (หลุดพ้นผิด) บุคคลนี้เรียกว่า อสัตบุรุษที่ยิ่งกว่าอสัตบุรุษ สัตบุรุษ เป็นอย่างไร คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ ฯลฯ มีสัมมาสมาธิ บุคคลนี้เรียกว่า สัตบุรุษ สัตบุรุษที่ยิ่งกว่าสัตบุรุษ เป็นอย่างไร คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ ฯลฯ มีสัมมาสมาธิ มีสัมมา- ญาณะ (รู้ชอบ) มีสัมมาวิมุตติ (หลุดพ้นชอบ) บุคคลนี้เรียกว่า สัตบุรุษที่ยิ่งกว่าสัตบุรุษ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น