ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ธรรมะไม่ใช่วัคซีนป้องกันโควิด : กลอนคติเตือนใจ





ธรรมะไม่ใช่วัคซีนป้องกันโควิด : กลอนคติเตือนใจ

    ธรรมะ หาได้ ใช่วัคซีน(โควิด19).......................ฤาษี ผู้ทรงศีล (ยังต้อง)กินเภสัช(ยารักษาโรค)

พระอรหันต์ พรรณนา ปรมัตถ์........................ก็บ่อาจ ขัดขืน ฝืนความตาย


    เมื่อเวร กรรมเก่า เข้าผจญ................................รดน้ำมนต์ เป็นปี มิช่วย(ให้)หาย

อยากอยู่ดี กินดี ชีวาสบาย............................ต้องขวนขวาย ขยัน สู้งานทำ


    มนตรา หาได้ ให้(ความ)ศักดิ์สิทธิ์.....................พระที่ มีอิทธิฤทธิ์ คิดให้ขำ(เรื่องตลกเหลวไหล)

ผ้าเหลือง เช็ดถู ดูเปื้อนดำ(สกปรก)...............มิล้ำ เลอเลิศ ประเสริฐเป็น

 

    หลักธรรม นำพา สัจจารู้...................................มิใช่ ไสสู่ ทุราเข็ญ(ทุร-=ชั่ว, ยาก, ลําบาก)

กำจัด อวิชา มายาเบน..................................เล็งเห็น ภัยผอง เตรียมป้องกัน(ตัว)


    (การ)ปฏิบัติธรรม เพื่อให้ ไม่โง่เขลา..................(ไม่ใช่)มัวเมา ยัดเยียด เบียดเสียดสรร

แพร่เชื้อ โควิด(19) ติดต่อปัน.........................จนอาสัญ เจ็บไข้ ไร้ปัญญา

 

    ถ้าศึกษา ธรรมะ ยังประมาท..............................คงไม่อาจ ตัดกิเลส เฉดตัณหา

หากยังหลง วิถี อวิชา.....................................ก็อย่าหวัง สั่งสม อุดมบุญ

 

    หลักธรรม ต้องสัมมา ปฏิบัติ..............................จึงจะ ขจัด บาปสถุล

มิจฉา ปฏิบัติ ปราศจากคุณ.............................เกื้อหนุน งุนงง หลงงมงาย


    (เป็น)พุทธศา สนิกชน ต้องพ้นเขลา...................ความชั่ว มัวเมา เผา(ผลาญ)สลาย

มีความ ไม่ประมาท ปราดเปรื่องปราย...............โรคร้าย ภัยผอง ป้องกันเอยฯ


๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๔


พระไตรปิฏกเล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๑ [ฉบับมหาจุฬาฯ] สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค

๖. ทุติยอสัปปุริสสูตร 

ว่าด้วยอสัตบุรุษ สูตรที่ ๒

	[๒๖] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี
	“ภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงอสัตบุรุษและอสัตบุรุษที่ยิ่งกว่าอสัตบุรุษ และ
จักแสดงสัตบุรุษและสัตบุรุษที่ยิ่งกว่าสัตบุรุษแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง
	อสัตบุรุษ เป็นอย่างไร
	คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิ ฯลฯ มีมิจฉาสมาธิ
	บุคคลนี้เรียกว่า อสัตบุรุษ
	อสัตบุรุษที่ยิ่งกว่าอสัตบุรุษ เป็นอย่างไร
	คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิ ฯลฯ มีมิจฉาสมาธิ มีมิจฉา-
ญาณะ (รู้ผิด) มีมิจฉาวิมุตติ (หลุดพ้นผิด)
	บุคคลนี้เรียกว่า อสัตบุรุษที่ยิ่งกว่าอสัตบุรุษ
	สัตบุรุษ เป็นอย่างไร
	คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ ฯลฯ มีสัมมาสมาธิ
	บุคคลนี้เรียกว่า สัตบุรุษ
	สัตบุรุษที่ยิ่งกว่าสัตบุรุษ เป็นอย่างไร
	คือ บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ ฯลฯ มีสัมมาสมาธิ มีสัมมา-
ญาณะ (รู้ชอบ) มีสัมมาวิมุตติ (หลุดพ้นชอบ)
	บุคคลนี้เรียกว่า สัตบุรุษที่ยิ่งกว่าสัตบุรุษ”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น