ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2564

รับศีลรับพร : กลอนคติเตือนใจ





รับศีลรับพร : กลอนคติเตือนใจ

    ตั้งใจ รับศีล รับพร..........................................สะท้อน ไสยศาสตร์ ปรารถนา

บกพร่อง สติ ปัญญา...................................ไม่ประสี ประสา สิ่งสัจ


    ศีลไซร้ (หา)ใช่เป็น วัตถุ.................................(ต้อง)บรรลุ ด้วยการ ปฏิบัติ

(ต้อง)ก่อกรรม ทำเอง เคร่งครัด.....................บ่มี ทางลัด ให้-รับ

 

    (จะ)ได้ดี-ได้ชั่ว เพราะตัว(เอง)ทำ.....................หาใช่ พรคำ พร่ำสดับ

(ผู้)รักษา ศีลธรรม กำชับ...............................เท่ากับ มีพร อากรไกร(อากร=บ่อเกิด)


    "อัตตา หิ อัตตโน นาโถ"*......................อย่าให้ ความโง่(งมงาย) หลอกได้

ตนเป็น ที่พึ่ง ซึ่งประไพ.................................ชั่ว-ดี ไม่มีใคร ให้มา

 

    อยากมี สุขสม อุดมคิด....................................ชีวิต จรัสแจ้ง แสวงหา

ต้องมี สติ ปัญญา.........................................รักษา ศีลธรรม ความดี

 

    อย่าคอย คิดพึ่ง คนอื่น....................................อภิรมย์ ชมชื่น วิถี(พึ่งเขา)

ประจบ สอพลอ ก่อกาลี.................................จะไมมี พิพัฒน์ ธวัชชัย


    (จง)ตั้งตน บนทาง ที่ถูกต้อง............................(ความ)บกพร่อง ปรับปรุง แก้ไข

มิต้อง ขอพร จากใคร....................................โดยเฉพาะ (จาก)พวกไร้ ศีลธรรม


    บางที มีการ ศึกษา.........................................ก็หา ช่วยใคร ให้(สติปัญญา)เลิศล้ำ

ความโง่ งมงาย ใจประจำ...............................ย่อมนำ ความมืด มน(มาให้)เอยฯ


๒๐ กันยายน ๒๕๖๔


*

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท 

๑๑. ชราวรรค 

๕. มหากาลอุปาสกวัตถุ

๓. ปธานิกติสสเถรวัตถุ
เรื่องพระปธานิกติสสเถระ
(พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุประมาณ ๕๐๐ รูป ดังนี้) [๑๕๙] บุคคลสอนผู้อื่นอย่างไร ก็พึงทำตนอย่างนั้น ผู้ที่ฝึกตนดีแล้ว จึงควรฝึก(ผู้อื่น) เพราะตนนั่นแลฝึกได้ยากยิ่ง
๔. กุมารกัสสปมาตาวัตถุ
เรื่องมารดาของพระกุมารกัสสปเถระ
(พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้) [๑๖๐] ตนแลเป็นที่พึ่งของตน๑- บุคคลอื่นใครเล่า จะเป็นที่พึ่งได้ เพราะบุคคลที่ฝึกตนดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งอันได้โดยยาก
๕. มหากาลอุปาสกวัตถุ
เรื่องมหากาลอุบาสก
(พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้) [๑๖๑] บาปที่ตนเองทำ เกิดในตน มีตนเป็นแดนเกิด ย่อมทำลายคนมีปัญญาทราม เหมือนเพชรที่เกิดจากหินทำลายแก้วมณี ฉะนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น