๏ สิ่งใดๆ อันใครเห็น เป็นเจ้าของ...........................โลกาจัก ลักจอง (การ)ครอบครองล่วง
(ความ)รู้สึกเป็น เจ้าของ (คือ)ครรลองลวง...........คอยหลอกปวง คนเขลา เบาธรรมา
๏ ที่ใครๆ ได้ครอง จับจองชื่อ.................................มั่นใจหรือ มือข้างใด ใช้รักษา?
ต่อให้จ้อง ตระกองกอด ตลอดเวลา....................โรค-ชรา มรณา(ยัง)พราก ไปจากจร
๏ การใฝ่ฝัก รักษา หาของอยาก(ได้)......................ยอมลำบาก ยากเย็น ลำเค็ญ(เดือด)ร้อน
บ้างตะบึง ถึงกับ ลืม(กิน)หลับนอน......................คือบัญชร อ่อน(ต่อ)โลก โชคชะตา
๏ สมใจอยาก ก็เปรมปรีดิ์ มีความสุข.......................มิสมใจ มากมายทุกข์ รุกถลา
ความเป็นเจ้า ของแท้(จริง) แล(ดู)สัจจา..............แม้ชีวา (ยัง)รักษายาก ลำบากเย็น
๏ อันโลกา มอบอะไร มาให้เรา..............................โลกจะเอา กลับคืน ฝืนยากเข็ญ
การจะได้ ครอบครอง(ตลอดไป) จองจับเป็น........ยลเฉกเช่น มายา คติตรอง
๏ ความอภิรมย์ สมหวัง ในสังขาร...........................เสมือนการ ฝันใฝ่ ในชนผอง
เหตุเพราะว่า สังขาร ปานดั่งฟอง-.......................สบู่ล่อง ลอยไป ตามสายลม
๏ อยู่ไม่นาน พลันแตก แยกสลาย..........................แลลับหาย ไม่เห็น เป็นสิ้นสม
ทวยสังขาร ทั้งปวง ลวงหลอกชม.......................ให้นิยม รมย์รื่น ชื่นฤดี
๏ มิควรคาด วาดหวัง ปวงสังขาร............................อย่าหมายปอง ต้องการ (ย่อม)บันดาลศรี
ไม่ยึดมั่น ถือมั่น (จะ)สันติมี.................................คือวิธี ปลดทุกข์ พ้นซุกทรวงฯ
๗ มิถุนายน ๒๕๖๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น