ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ฝึกสติปัฏฐาน(๔)ใย ให้เสียเวลา : กลอนคติสอนใจ



ฝึกสติปัฏฐาน(๔)ใย ให้เสียเวลา : กลอนคติสอนใจ

    (ถ้ายัง)อยากกินดี อยู่ดี มีชีวิต..................................อยาก(มา)เกิดใหม่ ใฝ่จิต ติดใจหล้า

(มัว)ฝึกสติ ปัฏฐาน(๔)ใย ไคลมรรคา.......................(เมื่อ)ไม่มุ่งมาด ปรารถนา ละโลกีย์


    (ยัง)อยากครองคู่ อยู่ยง จำนง(ยศ)ศักดิ์....................(ยัง)ติดใจ(ความ)รัก ติดใจกาม ตามประสี(ประสาโลกย์)

อยากรวยร่ำ ล้นอำนาจ บารมีฯลฯ............................ฝึกสติ ปัฏฐาน๔ (ไปก็)เสียเวลา


    ถูกบอกให้ เดินจงกรม นั่งสมาธิ................................ขาดสติ เชื่อตาม ความพระว่า

จะได้บุญ(บารมี) มากมาย ไร้ตำรา*..........................ก็หลับหู หลับตา ปฏิบ้ติไป

 

    ทั้งๆที่ สติปัฏฐาน เป็นงาน(กิจของ)พระ.....................มุ่งโลกุต ตระ สละ(โลก)ไซร้

เรื่องกินดี อยู่ดี มิใส่ใจ............................................หาประสงค์ เกิดใหม่(หลุดพ้น) ให้รู้ความ


    พระ(ไม่น้อย)ชอบสอน ส่งเดช (สักแต่)เทศนา............หวังลาภ-ยศ-สักกา ระหลากหลาม

(เพื่อ)ยกระดับ สถานะ พยายาม...............................จากคนเคย ต่ำทราม (ชาติ)กำเนิดมี


    หากยินดี กิเลสกาม ความกำหนัด..............................โลกุตตระตรึก ฝึกหัด(ไป) ก็บัดสี

เสมือนควาย ได้ลิ้มรส บทกวี....................................บ่เกิดมี สุนทรียภาพ ประทับจินต์

 

    (เข้าวัด)สวดมนต์แล้ว แจวออกมา หาซื้อหวย..............หวังลัดรวย ด้วยโชค โภคทรัพย์สิน

สุขสมหวัง ดั่งใจ รักไหลรินฯลฯ.................................สิ่งทั้งสิ้น(ทั้งปวง) ล้วนชินชา รึ้งอารมณ์

 

    (แค่)ตั้งหน้าทำ กรรมดี มิทำชั่ว..................................ก็เป็นเหตุ สำเร็จทั่ว หัวใจสม

(จง)รู้จักเลือก หลักธรรม** นำ(เป้าหมาย)อุดม.............อย่าโง่งม อบรมมั่ว งัวเงียเลย


๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๔


*พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนว่า ฝึกกรรมฐาน เดินจงกรม นั่งสมาธิฯลฯ ทำให้ได้บุญบารมี

คนสอนน่าจะงมงายไสยศาสตร์ ไม่เข้าใจพุทธศาสน์


**หลักธรรมของพระพุทธเจ้า มีทั้งสำหรับผู้ต้องการใช้ชีวิตทางโลก มีครอบครัว เช่น ศีล๕

มีทั้งหลักธรรมเพื่อความสิ้นสุดวัฏสงสาร ไม่เหมาะกับคนต้องการครองเรือน-คนที่อยากเกิดใหม่ เช่น ศีล๘

การจะปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า ต้องเข้าใจก่อนว่า หลักธรรมนั้นๆเหมาะสำหรับใคร

อย่าสักแต่ปฏิบัติแบบไม่รู้เรื่องรู้ราว เช่น อยากมีครอบครัวแต่ไปรักษาศีล๘ ประพฤติพรหมจรรย์ในวันพระ

อยากเกิดใหม่ แต่ไปฝึกสติปัฏฐาน๔ ที่สอนให้สละทางโลก

อยากร่ำรวยด้วยลาภ ยศศักดิ์ อำนาจ วาสนา แต่ไปฝึกหลักอนัตตา สุญญตา ว่างจากตัวตน ฯลฯ เสียเวลาเปล่าๆ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น