ปัจจัยลิขิตชีวิตคน : เรื่องเล่าเคล้าธรรมะ
๏ เกือบ 2 ทุมแล้ว
ขณะที่กำลังจดจ่ออยู่กับรายการถ่ายทอดสด
การช่วยเหลือเด็กๆทีมหมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนมากว่า
10 วัน
ฉันก็ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ไม่ทราบจำนวนมาจอดหน้าบ้าน
ตามมาด้วยเสียงชายหญิงอายุราวๆ 20
ต้นๆทะเลาะกันเอ็ดตะโร ดังเข้ามารบกวนการดูข่าวของฉัน
ไม่ได้ใส่ใจจนกระทั่งได้ยินเสียงผู้หญิงร้อง(ไม่ถึงกับตะโกน)ว่า ช่วยเรียกตำรวจด้วย
ฉันเกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายกับเธอ
จึงแง้มประตูบ้านเยี่ยมหน้าออกไปดู
เห็นชายอายุประมาณ 20 ต้นๆ 2
คนท่าทางจะเป็นเจ้าของจักรยานยนต์ 2 คัน กำลังโต้เถียงกับหญิงวัยไล่เลี่ยกันอีก 2
คน โดยที่หญิงคนหนึ่งมีลักษณะเมามาย ถูกประคองไว้โดยหญิงที่ท่าทางจะสนิทสนมกันดี
เพราะกำลังช่วยโต้เถียงกับฝ่ายชาย
ถึงตอนนี้ฉันจับใจความได้ว่า
ชายคนหนึ่งด่าทอหญิงที่เมามายว่านอกใจเขา
ทั้งๆที่คบกันแล้วยังไปนอนกับผู้ชายคนอื่น
ฝ่ายชายพูดไม่หยุดด้วยอารมณ์อยู่หลายคำ
โดยที่ฝ่ายหญิงไม่ค่อยได้ตอบโต้ แค่คำที่เขาเน้นถึง 2 ครั้งคือ
เขาไม่ต้องการยาบ้าจากเธอ
หญิงสาวก็ต่อว่าชายหนุ่มไม่ได้ทำงานเลี้ยงดูเธอ
ทำให้เธอต้องพยายามเลี้ยงดูตัวเองทุกวิธี ฯลฯ
โต้เถียงกันไปมาสักครู่
ฝายหญิงก็บอกให้ฝ่ายชายพาเธอไปส่ง
ฝ่ายชายแสดงความงุนงง เหมือนยังคุยกันไม่เคลียร์กลับยังต้องมีภาระขับรถไปส่งฝ่ายหญิงอีก จึงใช้อารมณ์ต่อว่าฝ่ายหญิงต่อไป
ฉันประเมินสถานการณ์แล้ว คิดคงไม่เกิดเหตุร้ายแรงอะไรมากไปกว่าหนวกหู จึงกลับไปดูรายการถ่ายทอดสดต่อ
ฝ่ายชายแสดงความงุนงง เหมือนยังคุยกันไม่เคลียร์กลับยังต้องมีภาระขับรถไปส่งฝ่ายหญิงอีก จึงใช้อารมณ์ต่อว่าฝ่ายหญิงต่อไป
ฉันประเมินสถานการณ์แล้ว คิดคงไม่เกิดเหตุร้ายแรงอะไรมากไปกว่าหนวกหู จึงกลับไปดูรายการถ่ายทอดสดต่อ
เสียงทะเลาะดังต่อไปไม่นาน
คลับคล้ายคลับคลาว่าคุยกับเข้าใจแล้ว
ทั้งหมดจึงขับรถออกไปพร้อมกันจากหน้าบ้านของฉัน
เงียบได้สักที
๏ ปัจจัยปัจจุบันที่กำหนดชีวิตคนเรานั้น
หลักๆมี 2 ประการ คือ
1. การเลือกคบคน 2. การเลือกกิจกรรม
๏ หากเลือกคนคนดีมีศีลธรรม
คนดีมีศีลธรรมจะไม่คิดไม่ทำเรื่องชั่วๆ
แต่จะคิดและทำเรื่องดีๆ-สุจริตเท่านั้น
ชีวิตของเขาจะวนเวียนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
มีคุณประโยชน์ ชีวิตจึงมีแต่ความสุขความเจริญและสงบสุข
ใครคบด้วยก็พลอยได้รับอานิสงส์
ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีมีประโยชน์ ชีวิตเจริญก้าวหน้า มีความสุขสำราญใจ
๏ ต่างกันกับการคบคนชั่ว
คนชั่วนั่นจะไม่ชอบทำความดี-สุจริต
แต่จะชอบทำความชั่ว-ทุจริต-ผิดศีลธรรม
ชีวิตจึงวนเวียนอยู่ในสถานที่-สถานการณ์ที่เลวร้ายและอันตราย
จิตใจจะประเชิญแต่เรื่องเสื่อมทรามต่ำช้า น่าหวาดกลัวและมืดมน
ไม่มีความสุขความเจริญ
ไม่ต้องสงสัยว่า
ใครคบคนชั่วก็ต้องพลอยทำชั่ว-ทุจริต-ผิดศีลธรรม
มีส่วนร่วมในสถานทีและสถานการณ์ที่เลวร้ายและอันตรายไปด้วย
จิตใจย่อมเสื่อมทรามต่ำช้า หาความสุขความเจริญไม่ได้
๏
การเลือกทำแต่สิ่งที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม-สุจริต-มีศีลธรรม
จะนำพาให้ผู้กระทำไปสัมผัสแต่สิ่งดีๆมีประโยชน์ ไม่มีโทษ
ไม่มีเรื่องคับแค้นใจ
ชีวิตจะพบแต่ความสงบสุข
แม้จะสมหวังบ้าง-ผิดหวังบ้างตามข้อจำกัดของเงื่อนไขที่ควบคุมไม่ได้
แต่ก็ไม่เดือดร้อนอะไร เพราะไม่ได้ทำชั่ว-ทุจริต-ผิดศีลธรรม
การคิดอย่างสุจริต-มีศีลธรรมจะทำให้สมองพัฒนาอย่างสร้างสรรค์
เรียนรู้สิ่งดีๆได้ง่าย มีสติปัญญาแตกฉานเฉลียวฉลาด
การทำตามครรลองคลองธรรมจะไม่เสี่ยงกับภัยอันตราย ไม่เสื่อมเสีย ไม่ไร้สาระ
ไม่เหลวไหล ผู้กระทำจึงได้รับแต่ประโยชน์คืนสนอง
คนดีมีศีลธรรมจะเข้ามาคบหา
ส่วนคนชั่ว-ไม่มีศีลธรมจะหลีกห่างออกไปจากวิถีชีวิต
ชีวิตจึงมีแต่ความสุขความเจริญก้าวหน้า มีจิตใจมั่นคง-ไม่เดือดร้อนกังวลใจ
ชีวิตจึงมีแต่ความสุขความเจริญก้าวหน้า มีจิตใจมั่นคง-ไม่เดือดร้อนกังวลใจ
๏ ต่างจากการเลือกไม่ทำตามทำนองคลองธรรม-ทุจริต-ผิดศีลธรรม
ชีวิตจะหักเหไปสู่เส้นทางแห่งความชั่วร้าย
ไม่ประสบกับความเจริญงอกงามในกุศล
แม้มองดูด้วยสายตา
บางคนจะมีหน้าที่การงานและฐานะที่ดีขึ้น
แต่สภาพจิตใจจะตกต่ำลงๆชนิดที่คนอื่นสามารถสังเกตได้
คนไม่ทำตามครรลองคลองธรรม-ทุจริต-ผิดศีลธรรมด้วยกันจะดูออก
และพยายามเข้ามาคบหาสมาคมด้วย เข้าทำนอง"ฝนตกขี้้หมูไหล
คนจัญไรมาเจอกัน"
ความคิด-การตัดสินใจจะเป็นไปในทางเสื่อม
ไม่สร้างสรรค์ ไม่พัฒนา ซึ่งทำให้โง่เขลาเบาปัญญา
จากที่เคยเป็นคนฉลาดก็กลับกลายเป็นคนโง่
ความสงบสุขจะเลือนหายไปจากหัวใจ
มีแต่ความหวาดระแวงว่าจะถูกจับได้ว่าทำผิด จิตใจร้อนรุ่ม-หวาดหวั่น
ต้องคอยแก้ตัวไม่ให้ถูกลงโทษจากการกระทำทุจริต
ชีวิตจึงมีแต่ความเสื่อม-ความทุกข์ ตกต่ำลงไปเรื่อยๆ
๏ ในการดำเนินชีวิต
ไม่จำเป็นว่าจะต้องไปลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง จึงจะเกิดการเรียนรู้
เรื่องเลวๆร้ายๆทั้งหลาย
มีคนทำให้ดู-มีตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้ว
โดยเฉพาะสังคมไทยทุกวันนี้
ที่สิ่่งแวดล้อมนับวันจะเสื่อมทรามลงไปเรื่อยๆ คนเลวเพิ่มมากขึ้น
กล้าทำสิ่งเลวๆมากขึ้น
แต่คนดีก็มีอยู่เหมือนกัน
ขึ้นอยู่กับเราที่จะเลือกมองหา ถ้าตั้งใจหาก็จะเห็น
ประเด็นสำคัญคือ เราแยกแยะคนดี-คนเลว
ความดี-ความเลว ออกจากกันได้หรือเปล่า?
ถ้าแยกไม่ออกก็เปล่าประโยชน์
เพราะคนเลวจะไม่เห็นว่าอะไรเลว มีแต่จะเห็นว่าสิ่งเลวๆนั้นคือสิ่งที่ถูกอกถูกใจ
๏ พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า
ความดีคนดีทำง่าย ความดีคนชั่วทำยาก,
ความชั่วคนชั่วทำง่าย ความชั่วอริยบุคคลทำได้ยาก
และ
กรรมอันไม่ดีและไม่เป็นประโยชน์แก่ตน คนทำง่าย,
กรรมใดแลเป็นประโยชน์แก่ตนและดี,
กรรมนั้นแลทำยากอย่างยิ่งฯ
๑๐ กรกฎาคม
๒๕๖๑
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น